นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งที่สภาวะเศรษฐกิจของไทยกำลังย่ำแย่ สะท้อนให้เห็นจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 1/67 ออกมาไม่ดี ทำให้ต้องปรับลดคาดการณ์ GDP ทั้งปีลง รวมทั้งเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิคแล้ว
“การที่ ธปท. อ้างว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.6% และปี 68 จะขยายตัวได้ 3% เป็นที่น่าพอใจ ทำให้สงสัยว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะกำหนดมากกว่า ธปท. จะมากำหนดและจะบอกว่าพอใจหรือไม่พอใจใช่หรือไม่” นายพิชัย กล่าว
พร้อมเห็นว่า ธปท. ควรจะต้องดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางรัฐบาล มากกว่าที่จะตัดสินเองว่าเศรษฐกิจขยายตัวขนาดไหนถึงเหมาะสม เพราะรัฐบาลอยากให้เศรษฐกิจขยายตัวให้ได้ 5% ตามศักยภาพที่น่าจะทำได้ แต่ ธปท. กลับเห็นว่าศักยภาพไทยอยู่เพียง 3% หรือลดศักยภาพไทยลงมา ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของรัฐบาล
หากเป็นแบบนี้ ประเทศไทยจะไม่สามารถเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้เลย เพราะการขยายตัวปีละ 5% ประเทศไทยต้องเวลาถึงประมาณ 20 ปีถึงจะเป็นประเทศรายได้สูงได้ ถ้าขยายตัวปีละ 2-3% คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นประเทศรายได้สูง และการปรับโครงสร้างดอกเบี้ย ทั้งการลดดอกเบี้ยนโยบาย และการลดช่วงห่างของดอกเบี้ยเงินกู้เงินฝาก (NIM) จะเป็นการปรับโครงสร้างของประเทศตามที่ ธปท.แนะนำเองด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า ในหลายประเทศที่ธนาคารกลางเป็นอิสระ แต่ก็ต้องทำงานสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล อาจจะขัดกันได้บ้างในบางเรื่องแต่ไม่ใช่เรื่องหลัก หรือเรื่องที่เป็นนโยบายโดยยืดประโยชน์ของประเทศและการกินดีอยู่ดีของประชาชนเป็นหลัก หากจะยึดความเป็นอิสระ โดยไม่ได้มองเห็นประโยชน์ของประเทศและความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้สงสัยว่าธนาคารกลางยังควรจะเป็นอิสระต่อไปอีกหรือไม่ และควรต้องขึ้นกับรัฐบาลหรือไม่ เพราะจะได้ทำงานสอดคล้องกัน
“อยากให้ ธปท. ได้ตั้งหลักคิดใหม่ โดยยึดประโยชน์ของประเทศ และความสุขประชาชนเป็นหลัก อย่าคิดแค่เพียงว่าเป็นอิสระ แต่ประชาชนเดือดร้อน และเศรษฐกิจไทยไม่ได้ขยายตัวไปถึงไหนเลย” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมเห็นว่า เสถียรภาพทางการเงินที่ ธปท.ชอบอ้างถึง แต่ถ้าหากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำมาตลอดเป็นเวลานาน ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ สุดท้ายปัญหาทางสังคมจะตามมา เมื่อถึงตอนนั้นเสถียรภาพก็จะไม่เกิด จะมีแต่ปัญหาทางเศรษฐกิจและอาชญากรรมตามมา
นายพิชัย กล่าวว่า อยากให้ ธปท.พิจารณาให้ครบทุกด้าน อย่าเพียงอ้างเพียงกรอบคิดเดียว หรือเป็นอิสระอย่างเดียว ปัญหามากมายจะเกิดขึ้นตามมาได้ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นการขยายตัวเศรษฐกิจที่สูง จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 67)
Tags: กนง., ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., พรรคเพื่อไทย, พิชัย นริพทะพันธุ์, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจไทย, แบงก์ชาติ