NEO เปิดเทรดวันแรกที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือ 23.08% จากราคา IPO ที่ 39.00 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ. นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) ประกอบธุรกิจทำการตลาด ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภค ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก ภายใต้แบรนด์ที่ประสบความความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งหมด 8 แบรนด์ ได้แก่ ไฟน์ไลน์ (Fineline) ดีนี่ (D-nee) บีไนซ์ (BeNice) เอเวอร์เซ้นส์ (Eversense) ทรอส (TROS) วีไวต์ (Vivite) สมาร์ท (Smart) และโทมิ (Tomi)
บริษัทมีรายได้ปี 63-66 เท่ากับ 6,768 ล้านบาท 7,445 ล้านบาท 8,300 ล้านบาท และ 9,484 ล้านบาท (+14%YoY) ตามลำดับ มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายสินค้าโดยรวมที่เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าทั้งจากผลิตภัณฑ์เดิมและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ รวมถึงบริษัทมีการทยอยปรับขึ้นราคาขายสินค้าทุกประเภทในแต่ละช่องทางการขายตั้งแต่ไตรมาส 1/66
รายงานผลประกอบการ ปี 63-66 มีกำไรสุทธิที่ 602 ล้านบาท 729 ล้านบาท 568 ล้านบาท และ 834 ล้านบาท (+46%YoY) ตามลำดับ ตามสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า
ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่า โดยมี NPM เท่ากับ 9.8% 6.8% และ 8.8% ตามลำดับ
จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 87.50 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 59.17% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตรำไว้ 1 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 13.9 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ JCT 11.4x,DDD 86.7x ,MOONG 19.4x ,KISS 26.00x
วัตถุประสงค์การระดมทุน 1) เพื่อลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน 2) เพื่อชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงิน 3) เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 67)
Tags: IPO, NEO, นีโอ คอร์ปอเรท, หุ้นไทย