สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) ว่า จีนได้บังคับใช้กฎระเบียบใหม่เพื่อนำไปสู่การเลิกใช้หน่วยประมวลผลจากสหรัฐในคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ของรัฐบาลจีน ด้วยการสกัดการใช้ชิปของอินเทล (Intel) และแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ หรือ เอเอ็มดี (AMD) ของสหรัฐ
กฎระเบียบดังกล่าวประกาศตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2566 และขณะนี้กำลังเริ่มบังคับใช้ โดยจะส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ของไมโครซอฟท์ และซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลที่ต่างชาติเป็นผู้ผลิต เนื่องจากจีนต้องการเปลี่ยนมาใช้ชิปของจีนเอง
รายงานระบุว่า หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลจีนที่สูงกว่าระดับตำบล ได้รับคำสั่งให้จัดซื้อหน่วยประมวลผลและระบบปฏิบัติการที่ “ปลอดภัยและเชื่อถือได้”
ทั้งนี้ เอเอ็มดีและอินเทลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ เพื่อพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ
เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐกับจีน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสกัดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 67)
Tags: Intel-AMD, จีน, ชิป, เซมิคอนดักเตอร์