นายชอง อินคโย รัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกาหลีใต้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ว่า เกาหลีใต้กำลังอาศัยกรอบการทำงานข้ามชาติ ในการพิจารณามาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าอ่อนไหวอย่างอุปกรณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ค่อยเอื้อต่อพันธมิตรชาติสำคัญอย่างสหรัฐที่มุ่งสกัดอิทธิพลของจีนในซัพพลายเชนเทคโนโลยี
รายงานข่าวระบุว่า ทางการสหรัฐกำลังแสวงหาแนวทางในการทำให้จีนเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปขั้นสูงได้น้อยลง ส่งผลให้เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านเซมิคอนดักเตอร์ เผชิญกับแรงกดดันเนื่องจากเกาหลีใต้ต้องพึ่งพาทั้งพันธมิตรอย่างสหรัฐและคู่ค้ารายใหญ่อย่างจีน
รัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกาหลีเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังมีส่วนร่วมในการหารือว่าสินค้าตัวไหนที่ควรอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกโดยอาศัยข้อตกลงวัสเซนนาร์ (Wassenaar Arrangement) โดยจีนไม่ได้เป็น 1 ใน 42 ประเทศสมาชิกขององค์กรวัสเซนนาร์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทั่วโลกผ่านข้อตกลงไม่แพร่ขยาย (non-proliferation agreement)
นายชองระบุว่า การพิจารณาจะใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่เกาหลีใต้จะดำเนินการใด ๆ และเสริมว่า การควบคุมการส่งออกไม่จำเป็นต้องเป็นการแบนเสมอไป
นายชองเน้นย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่ได้มีเป้าหมายเจาะจงไปที่จีนหรือประเทศใด ๆ เป็นพิเศษ และปฏิเสธที่จะให้การยืนยันว่าเกาหลีใต้มีการพบปะกับสหรัฐเพื่อหารือเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกที่เกี่ยวข้องกับชิปหรือไม่ อีกทั้งการเลือกใช้วิธีการแบบพหุภาคียังแสดงถึงท่าทีระมัดระวังของบรรดาผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการควบคุมโดยไม่มีการปรึกษาหารือในวงกว้าง
นายชองระบุว่า เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และ “อยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” และพยายามที่จะใช้จุดแข็งของตนเองเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้ โดยเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอุปกรณ์เทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 67)
Tags: กระทรวงการค้าเกาหลีใต้, การส่งออก, ชิปเซมิคอนดักเตอร์, สหรัฐ, เกาหลีใต้, เทคโนโลยี