สถานทูตจีนออกมาตอบโต้สหรัฐที่วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของฮ่องกง หรือกฎหมายมาตรา 23 โดยย้ำว่าสหรัฐควรเคารพอธิปไตยของจีน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกงมีมติผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เมื่อวันอังคาร (19 มี.ค.) ซึ่งนักวิจารณ์มองว่าเป็นการเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลในการปราบปรามผู้เห็นต่าง โดยกฎหมายฉบับใหม่กำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับข้อหาต่าง ๆ รวมถึงการทรยศและการกบฏ ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต
รายงานระบุว่า หลังจากฮ่องกงผ่านกฎหมายดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวถึงภัยคุกคามจากกฎหมายดังกล่าวว่า “ขาดคำจำกัดความที่ชัดเจนและคลุมเครืออย่างยิ่ง”
“เราเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้สามารถทำให้สังคมฮ่องกงที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดกว้างถูกปิดกั้นอย่างรวดเร็ว” นายเวแดนท์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าว
ด้านสถานทูตจีนในสหรัฐได้ออกมาตอบโต้ทันที โดยระบุว่าประเทศอื่นไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของจีน
“ฮ่องกงเป็นของจีน กิจการของฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนอย่างเต็มที่ ไม่มีประเทศใดมีสิทธิชี้นิ้วสั่งหรือแทรกแซงได้” โฆษกรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันพุธ (20 มี.ค.)
“เราขอเรียกร้องให้สหรัฐเคารพอำนาจอธิปไตยของจีน ยึดมั่นในหลักการที่เป็นแนวทางของกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหยุดแทรกแซงกิจการฮ่องกงซึ่งเป็นกิจการภายในของจีนทันที”
ทั้งนี้ ฮ่องกงเสนอร่างกฎหมายมาตรา 23 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. และนายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้เรียกร้องให้สภานิติบัญญัติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 67)