CPAXT ลุยเปิดสาขา makro และ Lotus’s ทั้งใน-ตปท. ลงลึกโฟกัสระดับอำเภอ-ปรับสาขาเดิมเพิ่มพื้นที่เช่า

นางสาวภัทรวัลล์ สุกปลั่ง Associate Director – IR บมจ.ซีพี เอ็กซ์ตร้า (CPAXT) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มค้าส่ง (makro) ในประเทศจะเปิดเพิ่ม 6-8 สาขา และต่างประเทศ 1 สาขา ส่วนธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s) จะมีสาขาขนาดใหญ่ในไทยเพิ่มอีก 2 สาขา ซุปเปอร์มาร์เก็ต 8-10 สาขาทั้งในไทยและมาเลเซีย ขณะที่ร้านค้าขนาดเล็ก Lotus’s Go Fresh มีแผนจะขยายกว่า 100 สาขา โดยจะโฟกัสการขยายไปในระดับอำเภอ

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการรวม 2 ธุรกิจคือ โลตัส และ แม็คโคร เป็นรูปแบบ hybrid ที่จะนำจุดเด่นมารวมกัน เพื่อผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ดีและรายได้จากค่าเช่าจากการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้ดีขึ้น โดยกลุ่มอาหารสดของกลุ่มค้าปลีก (Lotus’s) ในช่วงก่อนโควิดมีสัดส่วนประมาณ 18% และจากการผนึกกำลังกับค้าส่ง (makro) เมื่อเดือน ก.ย.66 ทำให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็น 26% และในอีก 5 ปีคาดว่าสัดส่วนอาหารสดจะเพิ่มเป็น 40%

สำหรับการพัฒนาพื้นที่เช่าในปี 67 จะเพิ่มกลยุทธ์

1) ความเป็น Localization เข้าถึงความต้องการของแต่ละท้องถิ่น เพื่อจัดรูปแบบพื้นที่เช่าให้เข้ากับท้องถิ่น ตอบโจทย์ลูกค้า

2) Food Destination จะเพิ่มสัดส่วน Food มากขึ้น โดยจะนำเชนร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศเข้ามาในต่างจังหวัด พร้อมทั้งสนับสนุนร้านเอสเอ็มอีหรือร้านอาหารท้องถิ่นที่เป็นที่นิยมจังหวัดนั้นมาเปิดด้วย

3) Lotus’s Eatary ยกระดับพรีเมี่ยม โดยปีก่อนเปิด 2 สาขา และในปีนี้จะตั้งเป้าเปิด 10 สาขา ซึ่งเปิดแล้วช่วงตรุษจีน 1 สาขา

และ 4) Mall Development & Mall Extension ปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มพื้นที่เช่า 35,000 ตร.ม.

บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่เช่าเพิ่มเติมในสาขาเดิม อาทิ แม็คโครสาทร, โลตัสสาทรที่เพิ่มพื้นที่ Lotus’s Eatary, แม็คโครจรัลสนิทวงศ์ และโลตัสสระบุรี คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2571 พื้นที่เช่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 210,000 ตร.ม.จากการเพิ่มสาขาใหม่ 9 แห่ง และขยายสาขาใหญ่ 7 แห่ง

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ Group CEO-Wholesales ของ CPAXT คาดว่ายอดขายรวมของบริษัทจะเติบโต High Single Digit โดยในช่วงม.ค.-ก.พ.67 ยอดขายของ makro ยังเติบโตได้ดีในระดับ mid single digit โดยกลยุทธ์การขายออนไลน์และมีการส่งของถึงบ้านวันรุ่งขึ้นมองว่าแนวโน้มจะมีมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันอัตรากำไรจะต่ำกว่า off line แต่ขณะนี้ค่าเสื่อมลดลงมากแล้ว เพราะมีการลงทุนแพลตฟอร์มไปมากแล้ว ทำให้อัตรากำไรระหว่าง online กับ offline แตกต่างกันประมาณ 1% สำหรับ makro

โดยสินค้า private label ในส่วนค้าส่ง (makro) มีสัดส่วน 16% ในปี 66 เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 15% ส่วนกลุ่มค้าปลีก (Lotus’s) มีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ 12% ในปี 65-66 คาดว่าในอีก 5 ปี จะมีสัดส่วนสินค้า private label ที่ 25%

สำหรับกลุ่มค้าส่ง สาขาในมาเลเซียถือเป็นอนาคตของบริษัท เพราะผู้บริโภคมาเลเซียก็นิยมซื้อสินค้าเป็นยกลัง โดยได้ส่งผู้บริหารเข้าไปปรับปรุงแผนกอาหาร และ Food Service ทำให้ยอดขายปีนี้โตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประชากรมาเลเซียมีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทยเท่าตัว จึงเห็นว่าในมาเลเซียบริษัทน่าจะสร้างการเติบโตได้ดี จึงตั้งเป้าลงทุนเพิ่มหากมีโอกาส

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย CEO-Lotus’s Thailand ของ CPAXT กล่าวว่า ร้าน Lotus’s Go Fresh ตั้งแต่ไตรมาส 3-4/66 และไตรมาส 1/67 ยอดขายเติบโต 2 digit ที่มีอาหารสดเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งยังยืนจุดแข็งด้านอาหารสดที่ดึงลูกค้าเข้าร้าน ส่วนต้นทุนขายผ่านออนไลน์และออฟไลน์ของ Lotus’s ไม่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ makro มียอดขายคิดเป็น 55% Lotus’s มียอดขาย 45%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 67)

Tags: , , ,