นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 67 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1.25 หมื่นล้านบาท และยอดโอน 8 พันล้านบาท โดยวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ในปี 67 จำนวน 20 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน และระดับลักชูรี่ และบ้านแฝด มูลค่ารวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตร (JV) จำนวน 16 โครงการ และอีก 4 โครงการเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง
โดยที่จะเห็นว่าการเปิดโครงการในปีนี้จะเน้นไปที่โครงการระดับราคา 5-30 ล้านบาท ขึ้นไปภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ บริทาเนีย (Britania), แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และเบลกราเวีย (Belgravia) ซึ่งเป็นเป็นกลุ่มเซ็กเมนท์ที่กำลังซื้อยังแข็งแรงในหลากหลายทำเลที่มีความต้องการซื้อในพื้นที่ และการแข่งขันยังไม่สูงมาก เพื่อวางรากฐานการกระจายโอกาสสู่ทำเลใหม่ๆ ประกอบกับความเสี่ยงในเรื่องของสินเชื่อมีต่ำ เพรบะเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง ทำให้บริษัทสามารถลดความเสี่ยงในโอนไปได้ ต่างจากโครงการระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่มีการปฏิเสธสินเชื่อสูง และธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งในปี 67 บริษัทมีเปิดโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ไบรตัน (Brighton) ราคา 2.8 ล้านบาท เพียง 1 โครงการเท่านั้น
ส่วนโครงการในต่างจังหวัดยังคงเดินหน้าต่อ ซึ่งวางแผนเปิด 12 โครงการ มูลค่ารวม 9,000-10,000 ล้านบาท ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น ซึ่งได้ใช้โมเดลพันธมิตรร่วมกับ Landlord ในพื้นที่ ครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพ โดยที่ในปี 67 บริษัทไม่ได้มีการวางงบลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติม เพราะมีที่ดินรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว และยังมีที่ดินอีก 23 แปลง ที่รองรับการพัฒนาใน 2 ปีข้างหน้าได้ ทำให้ในปี 67 บริษัทไม่ได้วางงบซื้อที่ดินใหม่เข้ามา
ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าทิศทางของเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งยังคงต้องรอผลของปัจจัยบวกในช่จงครึ่งปีแรกเห็นผลมากขึ้น หลังจากที่ปัจจุบันการท่องเที่ยวสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างดีและคึกคักมากขึ้ล แต่ยังคงรอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆของภาครัฐ และการลงทุนภาครัฐเข้ามาเพิ่มเติม รวมถึงทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังที่อาจจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เข้าช่วยตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้
ส่วนมูลค่าโครงการที่พร้อมโอนของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะยังคงเดินน้าในการขายเพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัทต่อเนื่อง และบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 66 ที่ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 1 เดือน และจะมี Backlog ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมจากการขายบ้านให้กับลูกค้า ซึ่งทุกๆ 1 เดือนจะมีการโอนจาก Backlog เข้ามาเป็นรายได้ของบริษัท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 67)
Tags: BRI, ธีรเดช เกิดสำอางค์, บริทาเนีย, หุ้นไทย