นายกฯ สั่งแก้ PM2.5 เชิงรุก ลงโทษเด็ดขาด-ตัดความช่วยเหลือจากรัฐ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกภาคส่วน ดำเนินการแก้ไขปัญหา/ฝุ่นละอองพิษ PM2.5 อย่างจริงจังในเชิงรุก ด้วยการใช้กลไกและกฎหมายที่มีอยู่ นำไปกำหนดมาตรการที่มีความเข้มข้นและเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยกำหนด 3 แนวทาง ดังนี้

1. ตัดความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รณรงค์ให้เกษตรกรเปลี่ยนวิธีการกำจัดวัสดุเหลือใช้จากการเผา ไปเป็นการฝังกลบ

กรณีเกษตรกรติดขัดเรื่องเครื่องมือในการฝังกลบ ภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุน แต่หากยังพยายามฝ่าฝืนเผา จะถูกตัดสิทธิในการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐทุกรูปแบบ

กรณีสินค้าเกษตรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการลดหรือระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา เช่น การนำเข้าข้าวโพดที่แหล่งผลิตมีการเผาตอซังข้าวโพด

2. กำหนดให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจัง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกประกาศเขตห้ามเผาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ใดฝ่าฝืนให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนกรณีเผาเป็นเหตุให้รำคาญตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ให้ลงโทษปรับ และหากมีการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุม และลงโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าฯ ดูแลกวดขันอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการเผาหรือการลักลอบนำเข้าสินค้าที่มีการเผา หากปล่อยปละละเลย ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีส่วนรับผิดชอบตามกฎหมาย

3. แนวทางสนับสนุนเชิงรุก

– ให้กรมประชาสัมพันธ์ และ บมจ.อสมท ประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ประชาชนรับรู้ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ หากมีเจ้าหน้าที่คนใดหย่อนยานก็จะถูกลงโทษ

– ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สร้างความรู้แก่เกษตรกรถึงประโยชน์ในการฝังกลบ และโทษจากการเผา

– ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานความร่วมมือจากผู้ประกอบการกำหนดมาตรการรับซื้อตอซังข้าวโพดเพื่อลดการเผา

“ทั้ง 3 แนวทางเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม โดยให้คณะกรรมการจัดการปัญหามลภาวะทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน นำแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำให้เป็นมาตรการที่ชัดเจนโดยเร็ว” นายชัย กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ใช้จังหวัดเชียงใหม่เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหา โดยให้ทุกหน่วยบูรณาการการทำงานร่วมกันแล้วพบว่า ปริมาณ PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงลดลงไปมาก โดยเฉพาะเดือน ม.ค.67 ค่าฝุ่น PM2.5 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบย้อนหลังกลับไป 10 ปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 67)

Tags: , , ,