บมจ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) เปิดเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่นให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน) คาดเปิดจองซื้อระหว่าง 20-22 กุมภาพันธ์ 2567
ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.50% ต่อปี
ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.90% ต่อปี
ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 5.05% ต่อปี
หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัท
อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่”
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCAP กล่าวว่า บริษัทจะเสนอขายนหุ้นกู้ผ่านสถาบันการเงิน 12 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.เอเซีย พลัส บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.โกลเบล็ก บล.ธนชาต และ บล.บียอนด์
สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ SCAP พร้อมสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ Build Strength from Strength ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งผ่านจุดแข็งที่โดดเด่นในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมา และพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น มุ่งเน้นพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์เดิมให้ตอบโจทย์ลูกค้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง และในเชิงกว้างด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่อื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม สินเชื่อใหม่ และรายได้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
เป้าหมายในปี 67 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อคงค้างรวมจากธุรกิจหลักที่ 30,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม 20,000 ล้านบาท โดยหากเป็นไปตามเป้าหมายจะส่งผลให้เกิด Economies of Scale และบริษัทฯคงความเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ป้ายแดงของประเทศ ผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
“หลังจากเครือบริษัทศรีสวัสดิ์ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดย บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) จะเน้นทำธุรกิจจำนำที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วน SCAP เน้นทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และทำให้นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแผนในปี 67 เราเร่งปรับบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และเร่งศึกษาสินเชื่อรายย่อยใหม่ๆเพื่อสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรในธุรกิจ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับต้นๆ ของเมืองไทย”
บริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมุ่งเน้นการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจร และมีการกระจายตัวของสัดส่วนทางธุรกิจ ทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง เพื่อลดการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 67)
Tags: SCAP, ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969, หุ้นกู้, หุ้นไทย