7 โบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) จากแนวโน้มกำไรปี 67 ยังเติบโตต่อเนื่อง และสูงกว่าผู้ประกอบการ Top 5 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สวนทางภาพรวมตลาดอสังหาในปีนี้ที่ยังต้องเผชิญความท้าทายค่อนข้างมาก ตอบรับปัจจัยหนุนการโอนคอนโดใหม่ 5 โครงการ มูลค่ากว่า 1.7 หมี่นล้านบาท และการลงทุนเพิ่มในออสเตรเลีย ซึ่งจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาหนุนผลงานในไตรมาส 2/67
ประกอบกับ SPALI ยังคงมีความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) สูง อีกทั้งมีแผนเปิดโครงการใหม่มากถึง 42 โครงการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท หวังชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม ชณะที่ราคาหุ้นระดับ P/E ไม่แพง และยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ทำให้มีความน่าสนใจ
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรรมของ SPALI ในปี 67 ยังสามารถเติบโตได้ค่อนข้างดี แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทาย แต่ในปี 67 จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เข้ามาช่วยหนุนยอดโอน และจะหนุนผลการดำเนินงานของ SPALI ประกอบกับการขยายการลงทุนในออสเตรเลีย 12 โครงการ ซึ่งจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้เข้ามาในไตรมาส 2/67 จะเข้ามาเสริมผลงานของ SPALI ทำให้ประเมินกำไรในปี 67 เติบโต 12%
ขณะที่แผนธุรกิจในปี 67 ของ SPALI ยังวางแผนเชิงรุก โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่มากถึง 42 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท จะเข้ามาช่วยในด้านยอดขายให้เติบโตได้มากขึ้น และความน่าสนใจของ SPALI อยู่ที่ราคาหุ้นที่ไม่แพง ระดับ P/E ที่ 5.9 เท่า และประเมินผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 67 เพิ่มขึ้นเป็น 6.3% จากปี 66 ที่ 5.8% ทำให้ยังให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า SPALI เป็นหุ้นมีความโดดเด่นในกลุ่ม จากการที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มยอดขายคาดว่าจะเติบโตสูงที่สุดใน Top 10 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาด คาดว่า SPALI สามารทำยอดขายในปี 67 เติบโต 12% สูงกว่า Top 10 ผู้ประกอบการอสังหารายใหญ่ในตลาดที่เฉลี่ยเติบโต 5% จากกลยุทธ์ของ SPALI ที่มีการขยายโครงการในเซ็กเม้นต์ต่างๆที่กระจายตัว และการขยายในตลาดภูมิภาคที่ทำยอดขายได้ดี
ขณะเดียวกันยังมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะเข้ามารับรู้รายได้ในปี 67 ต่อเนื่อง โดยประเมินว่าจะมีกำไรเติบโตสูงถึง 15% ในปี 67 สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ Top 5 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในตลาด อีกทั้ง SPALI ยังให้ปันผลที่สูง 7.5% ต่อปี และมี P/E เพียง 5.7 เท่า โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น
ส่วน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” SPALI ด้วยราคาเป้าหมาย 23.70 บาท/หุ้น จากการที่ SPALI เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี Backlog ที่รองรับรายได้จำนวนมาก ประกอบกับ มีแผนเปิดโครงการใหม่เชิงรุกเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (Market share) ซึ่งจะช่วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีดีมานด์และมีกำลังซื้อที่ดี ซึ่งจะเข้ามาหนุนต่อยอดขายของ SPALI
นอกจากนี้ SPALI ยังมีการขยายโครงการลงทุนในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ซึ่งจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในตไรมาส 2/67 ทำให้มีปัจจัยที่หนุนกำไรในปีนี้ ซึ่งประเมินกำไรในปี 67 เติบโต 12.8% และ SPALI ยังซื้อขายที่ P/E ไม่สูง 6.5 เท่า และยังเป็นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดีต่อเนื่อง คาดว่าในงวดปี 67 จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.48% ต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 67)
Tags: Consensus, SPALI, ศุภาลัย, หุ้นไทย