ข่าว

พร้อมรับตรุษจีน! ดอนเมืองคาดผู้โดยสารคึกคักกว่าล้านคน

03
ก.พ.

ข่าวทั่วไป

ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในภาพรวมที่เดินทางผ่าน ทดม.ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 4 – 16 กุมภาพันธ์ 2567 (รวม 13 วัน) รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,110,859 คน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 85,451 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาเข้า – ขาออก) จำนวน 482,510 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ (ขาเข้า – ขาออก) จำนวน 628,349 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีก่อน 26.65%

 ขณะที่ประมาณการเที่ยวบินในช่วงเวลาดังกล่าว คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น จำนวน 7,035 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 541 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ (ขาเข้า – ขาออก) จำนวน 3,054 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 234 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ (ขาเข้า – ขาออก) จำนวน 3,981 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 306 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีก่อน 14.11% โดยมีสายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำ (Extra & Charter flight) จำนวนทั้งสิ้น 30 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินตรงจากจีนที่เข้า – ออก ณ ทดม. (ขาเข้า – ขาออก) จำนวน 1,080 เที่ยวบิน
 
*ทดม.เตรียมพร้อมรับผู้โดยสาร-ปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น

นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า ทดม. เตรียมความพร้อมทั้งด้านความปลอดภัยและบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับผู้โดยสารและปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น และเน้นย้ำการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการบริการผู้โดยสารได้รับความสะดวกและรวดเร็ว และมีมาตรฐานความปลอดภัย

  • ด้านการรักษาความปลอดภัย ทดม. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้เพียงพอต่อการให้บริการและการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งยังมีชุดตรวจผสม โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทดม., เจ้าหน้าที่สารวัตทหารอากาศ, เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีดอนเมือง และสุนัข K-9 ร่วมตรวจและดูแลความเรียบร้อยของอาคารสถานที่วันละ 4 รอบ อีกทั้งยังจัดเจ้าหน้าที่กำกับดูแลความหนาแน่นของผู้โดยสาร ผ่านระบบ REAL-TIME Passenger Tracking System (RTPTS) เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องของผู้โดยสารได้ทันท่วงที

  • ด้านการอำนวยความสะดวก ทดม. ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอสำหรับให้บริการ และสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ รถเข็นกระเป๋า เก้าอี้ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ รวมถึงการเพิ่มจุดตรวจบัตรแสดงตนทุกช่องตรวจ และเปิดใช้เครื่อง X-Ray บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระไม่ลงทะเบียนเต็มจำนวน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดส่งผู้โดยสาร Passenger and Taxi Drop Lane เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรภายในท่าอากาศยานให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอด 24 ชม. รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องเช็กอินด้วยตนเอง ผ่านระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS: Common Use Self Service) เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารในการลดระยะเวลาเช็กอินและได้รับความสะดวกมากขึ้น และระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System : PVS) บริเวณหน้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศอาคาร 2 พร้อมทั้งมีการให้บริการผู้ช่วยแปลภาษาจีน (Airport Help) ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม. และจัดเตรียมน้ำดื่ม ตราสัญลักษณ์ ทดม. เพื่อบริการประชาชนฟรีบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทั้ง ขาเข้า – ขาออก และบริเวณจุดบริการ TAXI ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ

  • ด้านระบบขนส่ง ทดม. จัดเตรียมพื้นที่จอดรถยนต์และบริการขนส่งสาธารณะ ทดม. จัดให้มีบริการพื้นที่จอดรถยนต์เต็มศักยภาพ สามารถจอดรถยนต์ได้ทั้งหมด 3,258 คัน และจัดเตรียมบริการขนส่งสาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ สามารถเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะได้หลายรูปแบบ อาทิ บริการรถโดยสารสาธารณะ ขสมก. สาย A1, A2, A3 และ A4 บริการรถแท็กซี่ (Taxi) สาธารณะ บริการรถรับจ้างสาธารณะแบบพิเศษ CABB Car ทดม. และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาใช้บริการ ณ ทดม. ขอแนะนำบริการรถไฟฟ้าสายสีแดงและใช้ทางเชื่อม Skywalk เข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 2 (ฝั่งอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น) ได้ทันที

โดยขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบเส้นทางและตารางเวลาเที่ยวบินผ่านแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเดินทาง

นอกจากนี้ ทดม. ได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารชาวจีนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของรัฐบาลโดยยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารเดินทางจีน หรือ วีซ่าฟรี ( Visa Free ) เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 67)

Tags: , ,