นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดอ่อนตัวลง เป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 4 และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่เฟดก็ส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้นักลงทุนกลับมากังวลต่อปัญหาด้านการเงินของธนาคารในสหรัฐอีกครั้ง หลังธนาคาร New York Community Bancorp เปิดเผยผลประกอบไตรมาส 4/66 ขาดทุน ส่งผลให้ราคาหุ้นของธนาคารร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
อีกทั้งในประเทศ มีแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง ที่อยู่ในโหมด Overhang รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เตรียมจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ลงด้วย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,355-1,350 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (31 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,150.30 จุด ลดลง 317.01 จุด หรือ -0.82%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,845.65 จุด ลดลง 79.32 จุด หรือ -1.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,164.01 จุด ลดลง 345.89 จุด หรือ -2.23%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,522.86 จุด เพิ่มขึ้น 37.79 จุด หรือ +0.24% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,773.42 จุด ลดลง 15.13 จุด หรือ -0.54% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,008.56 จุด ลดลง 278.15 จุด หรือ -0.77%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ม.ค.) ที่ 1,364.52 จุด ลดลง 8.62 จุด (-0.63%) มูลค่าการซื้อขาย 48,924.36 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 997.32 ล้านบาท (31 ม.ค.)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(31 ม.ค.) ลดลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ม.ค.) อยู่ที่ 8.66 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 35.52 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด จับตาผลประชุม BoE
– มติเอกฉันท์ ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง “พิธา-ก้าวไกล” เลิกแก้ไข ม.112 เข้าข่ายใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนสถาบัน “ธีรยุทธ” ขอเวลา 1 คืน รีวิวคำวินิจฉัยศาลฯ ก่อนตัดสินใจต่อ-ชี้คำวินิจฉัย กกต.คลาดเคลื่อนจากมติศาลฯ แล้ว “เรืองไกร” เตรียมยื่น กกต.ยุบพรรคก้าวไกล ตาม ม.92 วันนี้ ยกคำวินิจฉัยศาล รธน.ชี้ชัด แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง หลังเคยยื่นแล้ว 2 ครั้ง แต่ กกต.บอกว่าไม่เข้าเงื่อนไข ย้ำทำตามกฎหมายไม่มีใครสั่ง
– ธปท.ยอมรับเศรษฐกิจไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาดจ่อลดประมาณการเศรษฐกิจปี 66 ลง ยืนยันภาพรวมยังมีการฟื้นตัว แม้จะเติบโตช้า ชี้เพราะปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำภาคผลิต-ส่งออกไทยมีปัญหาการแข่งขัน ดอกเบี้ยช่วยได้แต่ไม่มากแค่ซื้อเวลาระยะสั้น ขอไปเร่งแก้หนี้ช่วยคนเข้าถึงสินเชื่อ ลดภาระผ่อนส่งแทน
– ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์หนุนกระแสเคลื่อนย้ายการลงทุน “ดับบลิวเอชเอ” มองความขัดแย้งจีน-สหรัฐ หนุนลงทุนไทย หวังแลนด์บริดจ์สร้างความได้เปรียบเศรษฐกิจไทยอนาคต “บีโอไอ” มองเทรนด์ต่อเนื่องย้ายฐานเข้าไทย หลังจีน-ไต้หวัน เพิ่มสัดส่วนลงทุนไทย เร่งดึงลงทุน “อีวี-เซมิคอนดักเตอร์” ส.อ.ท.ชี้ช่วยหนุนปรับสู่ อุตสาหกรรมยุคใหม่ สรท.เผยผู้ส่งออกเร่งปรับตัวรับมือผลกระทบวิกฤติทะเลแดง
– เลขานุการ รมว.คลัง ในฐานะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท (ดิจิทัลวอลเล็ต) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า กำลังรอความคิดเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อรอข้อเสนอแนะอย่างเป็นทางการ ขณะนี้เอกสารอย่างเป็นทางการยังมาไม่ถึงมือรัฐบาล รวมทั้งต้องรอฟังความคิดเห็นจากผู้ตรวจการแผ่นดินที่เตรียมสรุปความคิดเห็นมายังรัฐบาลด้วย รัฐบาลมีหน้าที่รับฟัง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อผูกมัดว่าต้องปฏิบัติตามหรือไม่ แต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังและนำมาปรับ สิ่งไหนที่ดีก็ดำเนินการต่อ หากได้รับข้อเสนอทั้งหมดแล้ว จะมีการสังเคราะห์ข้อมูลข้อเสนอแนะ ก่อนที่จะมีการนัดประชุม คณะกรรมการนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่อีกครั้ง
– รมช.คลังจี้รัฐวิสาหกิจเร่งลงทุน-ใช้จ่ายช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจก่อนงบปี 67 สามารถเบิกจ่ายได้ มั่นใจทำให้ไตรมาส 1-2 มีงบลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนชูสนับสนุนกีฬาปั้นเป็นซอฟต์เพาเวอร์
– เปิดรายชื่อ 24 บจ. ถึงรอบคืนหุ้นกู้ วงเงินรวมกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยขณะที่ความกังวลตลาดหุ้นกู้ผ่อนคลาย หลังเดือนมกราคมไร้ดีฟอลต์ ฟากสมาคมตราสารหนี้ ชี้ บจ.ตื่นตัวแห่เตรียมเงินสดสำรองคืนหนี้ ตั้งรับโรลโอเวอร์ ได้ไม่เต็มจำนวน แจงทุกหน่วยงานตลาดทุนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมยกระดับป้องกันซ้ำรอยอดีต
หุ้นเด่นวันนี้
– WHA (กสิกรไทย)”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท ระดับกำไรไตรมาส 4/66 ที่ดีและแนวโน้มยอดขายที่ดินที่แข็งแกร่งตั้งแต่ไตรมาส 1/67 ซึ่งจะทำให้กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2567 เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ WHA เชื่อว่ากระแสการย้ายฐานการลงทุนมายังไทยและเวียดนามในปี 2567 จะยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากแรงกดดันด้านความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก โดยธุรกิจหลักทั้ง 4 กลุ่ม จะเติบโตต่อเนื่องจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินปี 2567 ที่ 2,275 ไร่ มูลค่าการขายสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น 48% YoY เป็น 5.3 พันลบ.
– ICHI (เมย์แบงก์)เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท แนวโน้มกำไร 2567 เติบโตตามตลาด ชาเขียวที่บริษัทคาดขยายตัว 17-18% โดยมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย โดยเฉพาะในช่วง 1H67 ที่มีแรงขับเคลื่อนจากปีนี้กรมอุตฯ คาดร้อนเร็วและร้อนแรงเพิ่มความต้องการบริโภค ราคาหุ้นซื้อขายบน PER67E ที่ 18.7 ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวและปันผลสูง 5% ต่อปี โดยปัจจัยภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและผลบวกต่อประสิทธิภาพทำกำไรที่ดีขึ้นจาก Economy of Scale ช่วยสร้าง Upside ต่อประมาณการ Consensus
– SISB (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38.75 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/66 จะกลับมาฟื้นตัวได้ดี QoQ, YoY จากการรับรู้จำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้น (ปัจจุบันนักเรียนรวม 4,125 คน ไทย 73% ต่างชาติ 27%) และผลของการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาเต็มไตรมาส (ขึ้นไปตอนเดือน ส.ค.) ประกอบกับไม่มีต้นทุนส่วนเพิ่มของการเปิดโรงเรียนใหม่ 2 สาขา (นนทบุรีและระยอง) ในช่วงแรกซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย one time เหมือนไตรมาสก่อน ส่งผลให้ไตรมาสที่ 4 น่าจะเป็นจุดที่ดีสุดของปี ส่วนแนวโน้มปี 67 เติบโตได้ต่อเนื่องตามจำนวนนักเรียน โดยมีแผนเพิ่มในสาขาเชียงใหม่ ประชาอุทิศ ธนบุรี และดำเนินการปรับเพิ่มค่าเทอมโดยเฉลี่ยราว +5% ต่อปี ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 621 ล้านบาท (+68%YoY) และ 842 ล้านบาท (36%YoY) ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 67)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย