รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (30 ม.ค.) ว่า จะจัดสรรเงินราว 4.5 หมื่นล้านเยน (305 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับโครงการชิปเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัยที่ดำเนินการโดยบริษัทนิปปอน เทเลกราฟ แอนด์ เทเลโฟน คอร์ป (Nippon Telegraph and Telephone Corp – NTT) ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น, บริษัทอินเทล คอร์ป (Intel Corp.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ และบริษัทเอสเค ไฮนิกซ์ อิงค์ (SK Hynix Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เงินทุนสำหรับโครงการพัฒนาออปติคัลเซมิคอนดักเตอร์ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลความเร็วสูงและใช้พลังงานน้อยลงนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นร่วมมือกับสหรัฐและเกาหลีใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ ท่ามกลางอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภาคส่วนนี้
การวิจัยและพัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล
นายเคน ไซโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กล่าวว่า “เราหวังว่าโครงการนี้ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารเร็วขึ้นและใช้พลังงานลดลง จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอนาคต”
NTT กำลังผลักดันการพัฒนาออปติคัลเซมิคอนดักเตอร์ในฐานะเทคโนโลยีหลักสำหรับเครือข่ายออปติกและไร้สายที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขั้นสูงที่มีการสื่อสารความจุสูงและหน่วงเวลาลดลง
ทั้งนี้ NTT คาดว่า ชิปดังกล่าวจะลดการใช้พลังงานลงอย่างมากโดยการใช้แสงแทนไฟฟ้าในระหว่างการประมวลผลข้อมูล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67)