ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทเลคอมและกลุ่มการเงินสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 484.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.21%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,640.81 จุด เพิ่มขึ้น 6.67 จุด หรือ +0.09%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,941.71 จุด ลดลง 19.68 จุด หรือ -0.12% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,632.74 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวกใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่เข้าทดสอบในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 3 เดือน
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้น 1.0% แม้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังการซื้อขายที่ผันผวน
แต่หุ้นกลุ่มเทเลคอมปรับตัวลง 0.8% โดยหุ้นอีลิซ่าของฟินแลนด์ ร่วงลง 4.5% หลังโบรกเกอร์ปรับลดคำแนะนำลงทุน
หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 0.5% และหุ้นกลุ่มการเงินลดลง 0.4% โดยหุ้นชโรเดอร์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนของอังกฤษ ร่วงลง 3.7% หลังเอ็กเซน บีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุน และเจฟเฟอรีส์แสดงความวิตกกับราคาหุ้นและผลประกอบการของบริษัท
หุ้นโฮลซิม ซึ่งเป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่ง 4.7% หลังเปิดเผยว่าจะแยกธุรกิจในอเมริกาเหนือ
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากตลาดปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรก 0.25% ในเดือนเม.ย.นี้
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ย และบรรดาเทรดเดอร์บางส่วนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป