จีนได้ออกมายืนยันถึง “มิตรภาพเก่าแก่” ที่มีกับเกาหลีเหนืออีกครั้ง โดยความเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่ทั้ง 2 ชาติเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหม่ ซึ่งเกิดจากการทำข้อตกลงระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ ซึ่งเปิดทางให้เกาหลีใต้สามารถขยายขอบเขตและพัฒนาอานุภาพของคลังแสงขีปนาวุธของประเทศได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีนได้เข้าพบกับนายรี รยอง นัม ทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศจีนคนใหม่เมื่อวานนี้ โดยนายหวังได้ย้ำชัดถึงจุดยืนของจีนที่ต้องการรักษา “การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ในระดับสูง”
รายงานระบุว่า “ทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือในประเด็นดังกล่าว”
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เข้าพบนายมูน แจ อิน ที่ทำเนียบขาวเมื่อหลายวันก่อน โดยปธน.ไบเดนต้องการที่จะกระชับความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามด้านความมั่นคง ซึ่งมาจากจีนและเกาหลีเหนือ
สหรัฐและเกาหลีใต้เห็นพ้องที่จะยกเลิกกฎข้อบังคับด้านขีปนาวุธระดับทวิภาคี ซึ่งจำกัดการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีใต้มาเป็นเวลานาน โดยกฎข้อบังคับดังกล่าว เกาหลีใต้สามารถพัฒนาขีปนาวุธที่มีพิสัยไม่เกิน 800 กิโลเมตร (500 ไมล์) ซึ่งการยกเลิกกฎข้อบังคับนี้จะทำให้เกาหลีใต้สามารถยิงขีปนาวุธได้ไกลถึงเมืองใหญ่ๆของจีน และจะช่วยเพิ่มความสามารถให้เกาหลีใต้มีโอกาสโจมตีเกาหลีเหนือได้มากขึ้น
อนึ่ง จีนเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงและด้านการค้าที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ และถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือมาเป็นเวลาหลายปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 64)
Tags: ขีปนาวุธ, คาบสมุทรเกาหลี, จีน, มูน แจ อิน, รี รยอง นัม, สหรัฐ, หวัง อี้, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, โจ ไบเดน