เพื่อไทย ชูยุทธศาตร์เศรษฐกิจเทศกาล ดัน “สงกรานต์” เป็นซอฟท์พาวเวอร์ระดับโลก

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ เตรียมผลักดันให้ประเพณี “สงกรานต์” เป็นซอฟท์พาวเวอร์ระดับโลก ซึ่งเป็นการนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการกำหนดนโยบายต่างประเทศในการส่งออกวัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาทั่วโลก

“คณะกรรมการซอฟพาวเวอร์ เตรียมโปรโมตช่วงสงกรานต์ให้เป็นงานระดับโลก โดยมีการจัดงานตลอดทั้งเดือน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถกระจายการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยจะมีโปรโมตงาน H20 เริ่มจัดงาน 11-12 เม.ย.67 และไล่เลียงไปยังจังหวัดต่างๆ” น.ส.แพทองธาร กล่าวในเวทีเสวนา “ยกระดับ Soft Power ไทยไปกับ THACCA” น.ส.แพทองธาร กล่าว

พร้อมระบุว่า ในการจัดเทศกาลและการท่องเที่ยวที่ได้รับงบเยอะสุดถึง 1,700 ล้านบาทนั้น ต้องมีการใช้งบประมาณที่ชัดเจน เพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ และอยากให้ประชาชนเข้าใจเรื่อง “เศรษฐกิจเทศกาล” มากขึ้น การจัดงาน 1 เทศกาลต้องการให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง เกิดการจ้างงาน เกิดกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองนั้นๆ มากขึ้น เกิดการค้าขายอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ รัฐบาลจะมีแก้ไขกฏหมาย และตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแบบ One Stop Service ในการขออนุญาตต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนด้านซอฟท์พาวเวอร์มากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะให้ภาคเอกชนมีบทบาทในการเซ็นเซอร์เพื่อจัดเรตตั้งมากขึ้น, อุตสาหกรรมอาหาร จะนำงบประมาณไปเน้นเรื่อง reskill เป็นอันดับแรก ด้วยโครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” โดยตั้งเป้าปี 67 จะมีการส่งเสริมให้เกิดเชฟ 10,000 คนที่มีองค์ความรู้ด้านการทำอาหาร, อุตสาหกรรมกีฬา เช่น กีฬามวย ปัจจุบันมีค่ายมวย 4 หมื่นแห่งกระจายอยู่ทั่วโลก สิ่งที่อยากทำต่อคือ ทำให้ต่างชาติหลงรักกีฬามวยไทยมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมแฟชั่น จากที่ได้จัดงาน “กรุงเทพเมืองแฟชั่น” ก็จะมีการต่อยอดให้มากขึ้น

ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์ฯ กล่าวว่า “เศรษฐกิจเทศกาล” ถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่หลายประเทศดำเนินการ ซึ่งจะได้รับงบประมาณไปจัดระบบท่องเที่ยวใหม่พันกว่าล้านบาท พัฒนาคนที่อยู่ในวงการเฟสติวัลให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น

“การจะทำให้ซอฟพาวเวอร์ยั่งยืนได้ ต้องมีการตั้งหน่วยงาน THACCA หรือ Thailand Creative Content Agency เพื่อส่งสัญญาณที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดความยั่งยืน และขณะนี้รัฐบาลกำลังผลักดัน คาดว่า จะถึงเข้าสู่ที่ประชุมสภาในช่วงกลางปีนี้ และหวังว่ากลางปีหน้า พ.ร.บ.THACCA จะออกมา” นพ.สุรพงษ์ กล่าว

นพ.สุรพงษ์ กล่าว่า จะมีการส่งเสริมให้ทุนไปทำภาพยนตร์ และส่งเสริมผลักดันภาพยนตร์ไทยไปยังเวทีโลก รวมถึงส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย โดยมีมาตรการจูงใจด้านภาษี และอำนวยความสะดวกด้าน One Stop Service ส่วนอุตสาหกรรมด้านอาหาร จะมีการส่งเสริมร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ตั้งเป้าจาก 2 หมื่นร้าน เป็น 1 แสนร้านทั่วโลก โดยให้เป็นร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม และในเดือน เม.ย.จะเริ่มโครงการ reskill ให้เต็มที่ หลังจากงบประมาณผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้ว และด้านอุตสาหกรรมกีฬา ก็จะมีการ reskill ครั้งใหญ่ จะมีการบรรจุมวยไทยในหลักสูตรการเรียน

รวมถึงการส่งเสริมกีฬาอีสปอร์ตด้วย รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมหนังสือ จะมีการผลักดันด้านนี้ เพราะมองว่า เป็นต้นทางในการผลักดันการทำคอนเทนต์ หรือทำบทภาพยนตร์ต่างๆ ได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 67)

Tags: , , , , , ,