นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ของมาเลเซีย กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า รัฐบาลมาเลเซียจะจัดการเจรจาทวิภาคีกับรัฐบาลไทยเพื่อขอความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาต่อการจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีการผลิตในประเทศไทย
นอกจากนี้ นายจามาลุดดินกล่าวว่า มาเลเซียจะพิจารณาเพิ่มปริมาณวัคซีนซิโนแวคของจีน หากมีปัญหาขาดแคลนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
คำกล่าวของนายจามาลุดดินมีขึ้น หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียแถลงวานนี้ว่า มาเลเซียจะยุติการฉีดวัคซีนซิโนแวค ทันทีที่สต็อกวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันหมดลง
นายอัดฮาม บาบา รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวว่า ตั้งแต่นี้ไป โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของมาเลเซียจะใช้วัคซีนของไฟเซอร์เป็นหลัก
ทั้งนี้ มาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 45 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับประชากร 70% ของประเทศ
นายอัดฮามกล่าวว่า มาเลเซียได้ซื้อวัคซีนของซิโนแวคจำนวน 16 ล้านโดส ซึ่งได้ฉีดให้แก่ประชาชนแล้วจำนวนราว 8 ล้านโดส ซึ่งอีก 8 ล้านโดสจะถูกใช้เป็นวัคซีนเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวคเข็มแรก แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนจะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
การประกาศยกเลิกการใช้วัคซีนซิโนแวคของมาเลเซียมีขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 64)
Tags: มาเลเซีย, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนโควิด, แอสตร้าเซนเนก้า, ไครี จามาลุดดิน