บลจ.ยูโอบี ส่งกองทุนตราสารหนี้อิงทองคำเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน เปิดขาย 11-22 ม.ค.

บลจ.ยูโอบี ชี้โอกาสการลงทุนในทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอน ทั้งจากการดำเนินนโยบายทางการเงินการลงทุนและสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามและส่งผลให้การลงทุนทองคำจึงเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ บลจ.ยูโอบี นำเสนอกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UGLDC1Y2) แสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่อ้างอิงกับระดับราคาของ SPDR Gold Shares ETF

  • โดยเสนอขาย กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UGLDC1Y2) IPO ระหว่างวันที่ 11-22 มกราคม 2567

ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวอย่างต่อเนื่องยาวนานของธนาคารกลางสหรัฐฯ นำมาซึ่ง Credit Conditions ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมายและกำลังส่งผ่านไปยัง Real Sector โดยนักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่ที่ระดับ 50% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่สภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ด้านอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Yield) มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่กรอบ 0.50 – 2.00% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายกำลังผ่านจุดสูงสุดและมีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงและทยอยลดดอกเบี้ยนโยบายได้ 3 – 4 ครั้ง ในปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองอัตราเงินเฟ้อที่นักลงทุนจะค่อยๆปรับลดลงความคาดหวังตามทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่อาจไม่ได้ปรับลดลงเร็วมาก (Sticky Inflation)

อีกทั้ง สถานการณ์ความขัดแย้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์และสงครามที่เกิดขึ้นมักส่งผลเชิงบวกต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำเพียงระยะสั้น ดังนั้น ภาวะตลาดในปัจจุบันจึงเป็นโอกาสการเข้าลงทุนทองคำ

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UGLDC1Y2) มีระดับความเสี่ยง 5 กองทุนจะแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 การลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและ/หรือ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก และ/หรือ ตราสารหนี้ในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) หรือเทียบเท่า รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 95.00 – 99.90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายให้เงินลงทุนในส่วนนี้เติบโตเป็น 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อย่างไรก็ดี ในกรณีที่สภาวการณ์ไม่ปกติกองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อย่างไรก็ดี กองทุนยังคงมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) ที่เกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร / เงินฝาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนได้

ส่วนที่ 2 การลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม โดยกองทุนจะแบ่งเงินลงทุนประมาณ 0.10 – 5.00% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เช่น สัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) หรือสัญญาออปชั่น (Option) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับระดับราคาของสินทรัพย์อ้างอิง คือ SPDR Gold Shares ETF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในทองคำแท่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่าผลตอบแทนของราคาทองคำแท่งภายหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดของกองทุน ในกรณีที่สินทรัพย์อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF เคลื่อนไหวออกนอกกรอบ โดยลดลงต่ำกว่า 20% หรือ เพิ่มขึ้นสูงกว่า 20% ในวันใดวันหนึ่ง ลูกค้าอาจจะได้รับผลกระทบและได้รับเพียงผลตอบแทนชดเชย 0.70%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 67)

Tags: , , , ,