เกษตรกรชาวเยอรมันเปิดฉากประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการตัดเงินอุดหนุนของรัฐบาลเยอรมนีในวันจันทร์ (8 ม.ค.) โดยใช้รถแทรกเตอร์ปิดกั้นถนนสายต่าง ๆ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี ในขณะที่พยายามแก้ปัญหาด้านงบประมาณและควบคุมกลุ่มขวาจัดที่มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ขบวนรถแทรกเตอร์และรถบรรทุกได้ปิดกั้นถนนสายต่าง ๆ ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบศูนย์องศาเซลเซียสในเกือบทั้งหมด 16 รัฐของเยอรมนี ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงได้ปะทะกับตำรวจและนักการเมืองชั้นนำออกโรงเตือนว่าสถานการณ์ความไม่สงบครั้งนี้อาจเกิดจากการร่วมมือกับกลุ่มหัวรุนแรง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงครั้งนี้ได้กดดันให้รัฐบาลที่ไม่ได้รับความนิยมของนายกฯโชลซ์ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง โดยควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบควบคู่ไปกับการยึดมั่นต่อกฎระเบียบทางการคลัง หลังข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนี ได้ทำลายแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลเยอรมนี
ป้ายประท้วงหนึ่งเขียนข้อความเอาไว้ว่า “เบียร์ไม่อาจผลิตได้โดยปราศจากเกษตรกร” ขณะที่ รถแทรกเตอร์อีกคันหนึ่งติดป้ายจากพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (Alternative for Germany – AfD) ซึ่งเป็นฝ่ายขวาดจัด ระบุว่า “เกษตรกรสำคัญเป็นอันดับแรก”
รายงานระบุว่า เกษตรจัดการประท้วงครั้งนี้ขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อกรณีที่รัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจยกเลิกการลดหย่อนภาษีต่อภาคเกษตรที่ใช้น้ำมันดีเซล เนื่องจากพยายามผลักดันงบประมาณประจำปี 2567 ให้สำเร็จ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนี
อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีวินิจฉัยในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วว่า การโยกงบประมาณสำหรับโรคโควิด-19 มูลค่า 6 หมื่นล้านยูโร (6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไปใช้ในแผนการด้านสภาพภูมิอากาศนั้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 67)