ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในช่วงอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของ BI ในปี 2566 ที่ 2-4% ขณะที่เป้าหมายใหม่สำหรับปี 2567 อยู่ที่ 1.5-3.5%
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาสินค้าที่รัฐบาลควบคุมและไม่รวมราคาอาหารที่ผันผวน อยู่ที่ 1.80% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 และต่ำกว่าที่ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.85% และชะลอตัวลงจากเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนพ.ย.ที่ระดับ 1.87%
ทั้งนี้ BI ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปทั้งสิ้น 2.50% ตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 ถึงเดือนต.ค. 2566 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปีย
ราดิกา ราโอ นักเศรษฐศาสตร์จากดีบีเอส แบงก์ กล่าวว่า เงินเฟ้อเดือนธ.ค.ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดจะสร้างความสบายใจให้กับคณะผู้กำหนดนโยบายการเงิน
“เราคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะไม่รีบเปลี่ยนไปใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงิน” ราโอกล่าว
ราโอกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจขึ้นสูงเกิน 3% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากมีแรงกดดันให้ราคาสินค้าปรับตัวขึ้นในช่วงวันสำคัญทางศาสนา เช่น เราะมะฎอน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือนมี.ค.นี้
ด้านเจ้าหน้าที่ BI คาดว่า เงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้อาจแตะที่ 3.2% เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ม.ค. 67)
Tags: ธนาคารกลางอินโดนีเซีย, อินโดนีเซีย, เงินเฟ้อ