โพลชี้ชาวอังกฤษส่วนใหญ่อยากให้รัฐใช้มาตรการควบคุมโควิดต่อ

ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยคันทาร์ พับลิค ระบุว่า ประชาชนชาวอังกฤษกว่า 2 ใน 3 มองว่า รัฐบาลควรใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 บางส่วนต่อไปหลังจากวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นกำหนดการที่รัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน วางแผนที่จะยกเลิกนโยบายดังกล่าว อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 7-12 ก.ค. โดยการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน 1,057 คน

ชาวอังกฤษ 66% ยอมรับว่า ยังอยากให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 บางส่วนหรือทั้งหมดต่อไป ขณะที่ 60% มองว่า ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัยต่อไปเมื่อใช้บริการในร้านค้าหรือขนส่งสาธารณะ

ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสันกล่าวว่า ประชาชนชาวอังกฤษจะต้องใช้วิจารณญาณของตนเองว่าควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่หลังจากวันที่ 19 ก.ค.

อย่างไรก็ตาม ทางการสก็อตแลนด์ยืนยันว่า จะยังคงบังคับสวมหน้ากากอนามัยต่อไป แม้จะมีการยกเลิกข้อกำหนดอื่นๆ เกือบทั้งหมดในวันที่ 9 ส.ค. ขณะที่นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนกล่าวว่า ผู้ที่อาศัยในกรุงลอนดอนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ

ผลสำรวจของคันทาร์พบว่า 29% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่า อังกฤษจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด-19 โดยไม่มีการบังคับใช้ข้อจำกัดใดๆ

ในด้านเศรษฐกิจนั้น ผลสำรวจพบว่าความมั่นคงในอาชีพแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด โดย 21% ของผู้ที่ทำงานกล่าวว่า พวกเขารู้สึกว่าตำแหน่งงานมีความมั่นคงมากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่รู้สึกไม่มั่นคงกับงานอยู่ที่ 21% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562

ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 4 กล่าวว่า เงินออมของพวกเขาลดลงตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดใหญ่ ขณะที่ 41% กล่าวว่าเงินออมคงอยู่ในระดับเดิม และ 20% กล่าวว่า เงินออมของพวกเขาเพิ่มขึ้น

ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามที่เก็บออมเงินได้เพิ่มขึ้นนั้น มี 11% ตั้งใจจะใช้ให้หมดภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ 63% กล่าวว่า พวกเขาจะใช้จ่ายบางส่วนหรือไม่ใช้จ่ายเลยในปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,