ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,933.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.44 จุด หรือ +0.13%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,374.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.12%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,644.95 จุด ลดลง 32.70 จุด หรือ -0.22%
นายพาวเวลได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้ พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ส่วนการที่เฟดจะลดวงเงิน QE จากระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือนนั้น จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
สำหรับประเด็นเงินเฟ้อ นายพาวเวลมองว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว จากการที่รัฐต่างๆทำการเปิดเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 0.9% โดยหุ้นเป๊ปซี่โค พุ่งขึ้น 1.03% หุ้นพร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ดีดขึ้น 0.74% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค บวก 0.69% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 1.89% หุ้นโคคา-โคลา ทะยานขึ้น 2.24%
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.41% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้ขอให้บรรดาซัพพลายเออร์ผลิต iPhone รุ่นใหม่จำนวน 90 ล้านเครื่องในปีนี้ จากเดิมที่ผลิตประมาณ 75 ล้านเครื่อง
หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.29% แม้ธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.85 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.96 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.51% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.16 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.57% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.07 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้รวม 7.13 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.22 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งส่งผลให้การเดินทางฟื้นตัวขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก