ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าไร้ทิศทาง หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (22 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าเฟดควรจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,720.18 จุด ลดลง 13.71 จุด หรือ -0.08%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,560.01 จุด เพิ่มขึ้น 205.87 จุด หรือ +0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,059.16 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ 0.29%

“กรรมการเฟดมองว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม หากข้อมูลที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้าบ่งชี้ว่า ภารกิจในการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย” เฟดระบุในรายงานการประชุมซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) และเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในวันข้างหน้า

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 3/2566 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัว 1% และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.1% โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ยังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว

เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสิงคโปร์ขยายตัว 1.1% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 0.7%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 66)

Tags: ,