นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวย้ำต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป เพราะจากการรายงานของเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตัวเลขจีดีพีไทยในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.5% โดยไม่คิดจะเห็นตัวเลขนี้ คาดว่าจีดีพีไตรมาส 3 จะโต 2% ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเวียดนาม มาเลเซีย เติบโตถึง 3% ดังนั้นอยากให้ สส.พรรคได้เข้าใจเรื่องนี้ว่าโครงการนี้มีความจำเป็น
นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการแถลงข่าวใหญ่เรื่องการแก้ปัญหาหนี้ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ คาดว่าแนวทางที่แถลงจะแก้ปัญหาได้ ทำให้หนี้นอกระบบและในระบบได้แก้ไขแบบบูรณาการ
นายเศรษฐา กล่าวว่า จะมีการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ โดยมอบหมายให้นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกท้องที่ และผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาหารือตกลงกัน ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเรื่องใหญ่ จึงขอฝากให้ สส.ในพรรคไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงติดตามผลการแก้ไขด้วย
ส่วนปัญหาหนี้ในระบบ รัฐบาลเองก็มีการแถลงหลายนโยบายในการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มครู เอสเอ็มอี ตำรวจ และประชาชนหลายภาคส่วน ที่ประสบปัญหาหนี้สินมาตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 รวมถึงหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 66)
Tags: GDP, กระทรวงการคลัง, จีดีพี, ดิจิทัลวอลเล็ต, พรรคเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน