นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยกรณีที่ นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนสะท้อนว่าไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินมาเพื่อใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่โพลออกมาทั้งหมด เพราะยังมีคนที่เห็นด้วยที่อยากให้แจก ถือว่าเป็นการสะท้อนความคิดเห็น ซึ่งเราได้ชี้แจงรายละเอียดไปทั้งหมดแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จะพิจารณา
ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจ ไตรมาส 3 ที่ออกมาโตเพียง 1.5% ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศที่เศรษฐกิจโตต่ำสุด อย่างมาเลเซีย ยังมีอัตราการขยายตัวถึง 3.3% หรือแม้กระทั่งอินโดนีเซีย หรือเวียดนาม ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าและการลงทุนของไทย เศรษฐกิจก็ยังโตกว่า 5% ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องการตีความ คำว่า “วิกฤต” หรือไม่ “จำเป็น” หรือไม่ แต่ส่วนตัว มองว่าวิกฤต และจำเป็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่ได้แถลงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 รัฐบาลก็ยังมีการรวบรวมความคิดเห็น และเสียงสะท้อนต่างๆ จากทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เพราะคิดว่าจำเป็นต้องมีการทำงานต่อ และยืนยันว่า ยังคงรับฟังเสียงสะท้อนตลอด เพราะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องทำ
ส่วนเสียงสะท้อนต่างๆ ที่ออกมา ในช่วงก่อนที่จะออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะทำให้นายกรัฐมนตรีเสียสมาธิในการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นตำแหน่งที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง มีหลายภาคส่วนที่ต้องแก้ไขปัญหา คงไม่มีสิทธิจะเสียกำลังใจ หรือเสียสมาธิ หรือจะนำมาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ทำงานไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ไม่เสียกำลังใจ และไม่เสียสมาธิ
อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่เศรษฐกิจไทย ยังเติบโตในช่วง 1.5% ซึ่งกว่าที่ พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะออกมานั้น ระหว่างนี้รัฐบาลจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาก่อน เพื่อช่วยให้ตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่านี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายหนึ่ง และเป็นนโยบายใหญ่ ส่วนนโยบายท่องเที่ยว ก็เป็นอีกนโยบายในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ และนโยบายแก้ไขหนี้สินทั้งระบบ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังจากได้การหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงมาตรการท่องเที่ยวที่เตรียมจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า รวมถึงมาตรการภาษีระยะยาวที่ยังคุยค้างไว้อยู่ แต่เรื่องที่สำคัญที่ได้มีการหารือในวันนี้คือ การพูดคุยเรื่องการแก้หนี้สินทั้งระบบ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การแก้ปัญหาหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบ
โดยเรื่องหนี้นอกระบบ ตนจะแถลงข่าวการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ส่วนหนี้ในระบบ จะแถลงอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ครบทั้งระบบ และได้มอบหมายงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ
“บางนโยบายก็สามารถใช้ได้ทันที แต่บางนโยบายก็ต้องใช้เวลา ซึ่งถือว่าเรามีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และทำงานอย่างต่อเนื่อง” นายกรัฐมนตรี ระบุ
พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของประชาชนลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ทุกนัด จะพยายามมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าตกใจที่ได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ออกมาแบบนี้ และถือเป็นการยืนยันตามที่ตนคิดไว้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 66)
Tags: Digital Wallet, ดิจิทัลวอลเล็ต, เงินดิจิทัล, เศรษฐา ทวีสิน