ชาวจีนหวั่นความปลอดภัย เลี่ยงเดินทางเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น

ไชน่า เทรดดิ้ง เดสก์ (China Trading Desk) ซึ่งเป็นบริษัทการตลาด ระบุในการเปิดเผยผลสำรวจมุมมองการเดินทางของชาวจีนว่า ญี่ปุ่นและไทยเคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้น ๆ ในใจนักเดินทางชาวจีนในปีนี้ แต่หล่นชั้นลงมาในไตรมาส 3/2566 โดยไทยร่วงลงสู่อันดับ 6 และญี่ปุ่นร่วงลงสู่อันดับ 8

ปัจจุบันทั้งไทยและญี่ปุ่นตามหลังเกาหลีใต้ มาเลเซีย และออสเตรเลียในแง่ของจุดหมายปลายทางในวันหยุดพักร้อนครั้งต่อไปของนักเดินทางชาวจีน โดยสิงคโปร์ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 1 หลังสิงคโปร์ถูกยกเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเดินทางที่สุดประจำปี 2566

นายซูบรามาเนีย ภัฏฏ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไชน่า เทรดดิ้ง เดสก์ระบุว่า การปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเลในเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกต่อการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของชาวจีนอย่างมาก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ไชน่า เทรดดิ้ง เดสก์ได้สำรวจความคิดเห็นพลเมืองจีนกว่า 10,000 ราย โดย 94% มีอายุต่ำกว่า 40 ปี โดยแสดงให้เห็นว่า การกินอาหารดี ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางเยือนต่างประเทศ หรือคิดเป็นสัดส่วน 23% รองลงมาคือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งอยู่ที่ 22% ธรรมชาติที่ 22% และการชอปปิงที่ 10%

ส่วนไทยได้รับผลกระทบจากภาพยนตร์จีนเรื่อง “Lost in the Stars” และ “No More Bets” ซึ่งต่างก็เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นและไม่ได้ถ่ายทำในประเทศไทย แต่ชาวจีนบางรายมองว่าเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงที่ตกเป็นพาดหัวข่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยภาพยนตร์เรื่อง “Lost in the Stars” อิงมาจากกรณีที่หญิงชาวจีนถูกสามีผลักตกหน้าผาในไทยเมื่อปี 2562 แต่ทั้งแม่และลูกในครรภ์รอดชีวิตปาฏิหาริย์

ส่วนเรื่อง “No More Bets” เป็นเรื่องราวของโปรแกรมเมอร์จีนรายหนึ่งที่จับพลัดจับผลูไปทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ หลังถูกล่อลวงในประเทศหนึ่งที่แม้ไม่ได้ระบุชื่อแต่กลับมีลักษณะคล้ายประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 66)

Tags: , , ,