BAY ประเมินกรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.85-35.50 รอดูรายงานประชุมเฟด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยแนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เคลื่อนไหวในกรอบ 34.85-35.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 35.12 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.10-36.15 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทพลิกกลับมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) เคลื่อนไหวผันผวนสูงตามข้อมูลเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ โดย CPI เพิ่มขึ้น 3.2% ขณะที่ราคาน้ำมันลดลง ส่วน CPI พื้นฐานเมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 4.0% ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 2 ปี และองค์ประกอบต่างๆ ของตัวเลขเงินเฟ้อสนับสนุนมุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จบรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ทำให้ดัชนีดอลลาร์หลุดระดับ 104 ในวันที่ประกาศตัวเลข CPI และดิ่งลงมากที่สุดในวันเดียวเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่เดือน พ.ย.65

นอกจากนี้ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานลดความร้อนแรงลง อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค.แข็งแกร่งเกินคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1,985 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 3,225 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า นักลงทุนจะติดตามรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.66 โดยปริมาณธุรกรรมอาจบางลง ก่อนเข้าสู่เทศกาลขอบคุณพระเจ้า ขณะที่เรามั่นใจมากขึ้นต่อมุมมองที่ว่า ขาลงของเงินดอลลาร์จะชัดเจนขึ้นในปี 67 ตามวัฎจักรเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน แม้จีนเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง แต่สัญญาณการฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จะช่วยหนุน sentiment สกุลเงินเอเชีย นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน อาจมีแนวโน้มคลายตัวลงหลังพรรคที่สนับสนุนจีน 2 พรรค ตกลงที่จะส่งผู้สมัครร่วมกัน เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันในการเลือกตั้งในเดือน ม.ค.67 อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง จะช่วยจำกัดแรงขายดอลลาร์เป็นระยะ

ส่วนปัจจัยในประเทศ จีดีพีไตรมาส 3/66 เติบโตเพียง 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยสภาพัฒน์ประเมินว่าในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 2.5% ทางด้านกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย เราตั้งข้อสังเกตว่า ยังไร้ทิศทางชัดเจนในระยะนี้ แม้ตลาดคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของเฟด ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 66)

Tags: , , ,