นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ สอดคล้องกับตลาดตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน หลังวานนี้ปรับตัวขึ้นร้อนแรงตอบรับเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว รวมถึงตัวเลข PPI , CPI เมื่อคืนนี้ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ให้แนวรับไว้ที่ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,425 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ออกข้าง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยวันนี้ไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นร้อนแรง ตอบรับประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง สะท้อนความสำเร็จของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง (Soft Landing) เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ รวมถึงรับรู้ดอกเบี้ยสหรัฐน่าจะพีคไปแล้วด้วย
อีกทั้งเมื่อคืนนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% จากระดับ 2.2% ในเดือนก.ย. และหากเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PPI ลดลง 0.5% ในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 63 ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย.
ให้แนวรับไว้ที่ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,425 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,991.21 จุด เพิ่มขึ้น 163.51 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,502.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,103.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.46 จุด หรือ +0.07%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,399.59 จุด ลดลง 120.11 จุด หรือ -0.36% ต่อมาหลังเปิดตลาด 15 นาที ดัชนีนิกเกอิบวก 49.55 จุด หรือ +0.15% สู่ระดับ 33,569.25 ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,174.69 จุด เพิ่มขึ้น 95.69 จุด หรือ +0.53% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,066.86 จุด ลดลง 5.97 จุด หรือ -0.19%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 พ.ย.66) ที่ 1,415.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.13 จุด (+2.10%) มูลค่าซื้อขาย 63,738.22 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,708.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.66.
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(15 พ.ย.) ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 76.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 พ.ย.66) อยู่ที่ 6.97 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 35.52 แนวโน้มแกว่ง sideway รอปัจจัยใหม่ จับตาทิศทาง FLOW
– สองยักษ์ “กูเกิล-ไมโครซอฟท์” ประกาศแผนลงทุนในไทยทันที หลัง “เศรษฐา” หารือผู้บริหาร ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 2 แสนล้าน “กูเกิล” เคลื่อน 4 เสาหลักหนุนอินฟราฯ ดิจิทัล คลาวด์ เศรษฐกิจเอไอ “ไมโครซอฟท์” ตั้ง “ดาต้าเซ็นเตอร์” นายกฯ เดินหน้าใช้เวทีเอเปค โชว์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ปูทางฟินเทคลงทุนไทย เปิดร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีเอเปค มุ่งประกันสุขภาพถ้วนหน้า-เปลี่ยนผ่านดิจิทัล-ความยั่งยืน
– อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา “แสนล้าน” ส่งสัญญาณไม่ดี ภาพรวมครึ่งปีหลังแบรนด์ “wait and see” หลังสงครามก่อหวอด ซ้ำเติมเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ไทยเผชิญหนี้ครัวเรือนสูง ขณะที่ โฆษณาดิจิทัลยังเป็นขาขึ้น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ฯ ประเมิน “โอทีที” หนุนมูลค่าเงินโฆษณาทีวีปรับตัวสูงขึ้น
– “ซีไอเอ็มบีไทย” เปิดรับซื้อหุ้นกู้ ก่อนครบกำหนด หวังเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย ให้รายย่อย หนุนตลาดหุ้นกู้คึกคักมากขึ้น ด้าน “ไทยบีเอ็มเอ” เผยเงินเริ่มไหลกลับตลาดบอนด์ เผยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิราว 4 พันล้าน ขณะเงินบาท พลิกแข็งค่าเร็วเป็นอันดับสองของภูมิภาค
– ‘ตลท.’ ยันหุ้นไทยร่วงหนัก ไม่ได้เกิดจาก ‘ชอร์ตเซล-เน็กเก็ตชอร์ตโปรแกรมเทรด’-ไม่พบผิดปกติส่งคำสั่งซื้อขาย ย้ำตรวจสอบทุกทรานเซกชัน พร้อมรับเรื่องศึกษาเปิดเผยข้อมูลนักลงทุนขายชอร์ตเป็นรายวัน ขอให้นักลงทุนมั่นใจตลท.ไม่ได้ละเลย เตรียมโรดโชว์ต่างประเทศนัดพิเศษ เรียกเชื่อมั่นลงทุนหุ้นไทย
– ส.อ.ท.มึนดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ดิ่งต่ำสุดในรอบ 16 เดือน อยู่ที่ระดับ 88.4 สะท้อนยอดขาย-ปริมาณผลิต-ผลประกอบการปรับลดลง ลุ้นรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปีนี้
หุ้นเด่นวันนี้
– IVL (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท 2 เหตุผลที่นำ IVL กลับมาในพอร์ตอีกครั้ง คือ ราคาหุ้นเริ่มยืนได้ สถานการณ์จีนไม่น่าจะแย่กว่าเดิม และเป็น 1 ใน 15 หุ้น ESG ที่อยู่ในดัชนีฯ MSCI หุ้นปิโตรเคมีน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในกำไร 3Q ไปแล้ว (ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษเข้ามาอีก) ราคาน้ำมันดิบทรงแถว 80 เหรียญฯ จีนเริ่มออกแรงพยุงเศรษฐกิจทำให้หุ้นปิโตรเคมีค่อยๆ ฟื้น นักลงทุนเริ่มเข้ามาเก็งทั้งการเปลี่ยนทิศของตลาด และหุ้น SET ESG โดยเราคัด 1 ในหุ้นที่จะเข้าชิง คือ IVl กำไรไตรมาส 3/66 ไม่ดีแต่ราคาหุ้นก็ลงมามาก ไตรมาส 3 กำไร 195 ล้านบาท (-98% YoY, -53% QoQ) เป็นผลมาจากทั้งปริมาณขายอ่อนแอและ core EBITDA/ton ที่ต่ำลง เราเชื่อว่ากำไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
– GULF (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 57.75 บาท โอกาสการเติบโตจากในประเทศ การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้มีโทนบวกจากการเซ็นสัญญา PPA โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนขนาด 649 MW และเตรียมเซ็นเพิ่ม 295 MW ภายในปีนี้ ซึ่ง 2 โครงการ(994 MW) ถือเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรของเรา ระยะถัดไปเชื่อจะเตรียมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศรอบใหม่อีก 10GW อีกทั้งคาดจะเริ่มประมูลโรงไฟฟ้า IPP ในประเทศเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่เตรียมหมดอายุในรอบ 8 ปีข้างหน้าอีก 10GW ถือเป็น Sentiment บวกต่อ กลุ่มฯ รวมถึง GULF ต่อไป
– ERW (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 6.35 บาท มี Sentiment บวกจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์พุ่งแตะระดับ 6.1 แสนคนเพิ่มขึ้น 9.6%wow ทำสถิติสูงสุดในปีนี้ เป็นโอกาสสะสมหุ้นท่องเที่ยวรับ High season โดยเฉพาะ ERW ที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศราว 90%ของรายได้รวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา, หุ้นไทย