ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ (9 พ.ย.) ว่า บริษัทขาดทุนรายไตรมาสที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดทุนติดต่อกันไตรมาสที่ 4 หลังซอฟต์แบงก์ตัดมูลค่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล้มละลายของวีเวิร์ค (WeWork) ซึ่งเป็นบริษัทที่ซอฟต์แบงก์เข้าร่วมลงทุน
อนึ่ง วีเวิร์คคือบริษัทให้บริการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงาน และเคยประสบความสำเร็จอย่างสูง
ผลการขาดทุนดังกล่าวตอกย้ำถึงความผันผวนและความเสี่ยงของกลยุทธ์ที่เน้นทุ่มเม็ดเงินมหาศาลลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปที่มีความเสี่ยงของนายมาซาโยชิ ซน ผู้ก่อตั้งของซอฟต์แบงก์ นอกจากนี้ การขาดทุนครั้งนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่ซอฟต์แบงก์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย ก็สามารถเผชิญกับความท้าทายทางการเงินได้เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซอฟต์แบงก์เผชิญกับแรงกดดัน เนื่องจากการจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน ส่งผลให้ต้นทุนหนี้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้น
ซอฟต์แบงก์รายงานผลการขาดทุนสุทธิ 7.89 แสนล้านเยน (5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 3 เดือนจนถึงสิ้นเดือนก.ย. หลังได้กำไร 3.01 ล้านล้านเยนในปีที่แล้ว โดยเวลานั้นซอฟต์แบงก์ได้ขายหุ้นอาลีบาบาทิ้งเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี กองทุนวิชัน ฟันด์ (Vision Fund) ซึ่งเป็นกองทุนด้านการลงทุนในเครือซอฟต์แบงก์ มีผลกำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านเยนในไตรมาสล่าสุด หลังจากที่ทำกำไรได้ 1.6 แสนล้านเยนในไตรมาสก่อนหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 66)
Tags: WeWork, ขาดทุน, ซอฟต์แบงก์, ญี่ปุ่น, ดอลลาร์สหรัฐ, ล้มละลาย