บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ขนาด 8 MW ร่วมกับ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (AAT) ผู้ผลิตรถยนต์ และประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ของฟอร์ด และมาสด้า เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำของพื้นที่บ่อน้ำดิบ ซึ่งใช้พื้นที่ติดตั้ง 60,000 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)ของ WHA Group โดยเบื้องต้นคาด จะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในเดือนกันยายน 2567
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่า โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ ของบ่อเก็บน้ำดิบ ภายในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ของ WHA Group โดยใช้พื้นที่ติดตั้ง 60,000 ตารางเมตร และมีกำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 8 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 270 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถช่วยให้บริษัทลูกค้าลดต้นทุนด้านพลังงานและได้ใช้พลังงานสะอาดได้ถึง 9.6 ล้านหน่วยต่อปี โดยสัญญาดังกล่าวสามารถยืดหยุ่นตามความต้องการใช้ของลูกค้าที่มีอายุสัญญาตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี
AAT เซ็นสัญญากับ WHAUP ในรูปแบบ 5 ปี + 5 ปี นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ภายหลังจากการเซ็นสัญญากับ AAT ในครั้งนี้ ส่งผลให้ WHAUP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 181 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 106 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 847 เมกะวัตต์
ด้าน นายเคนอิจิโร ซารุวาตาริ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAT กล่าวว่า การร่วมมือกับ WHAUP ในครั้งนี้ ถือเป็นร่วมมือในระยะที่ 3 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานของ AAT เมื่อปี 64 ที่ผ่านมาที่ได้มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการ Solar for Rooftop ของ AAT กว่า 45,000 ตารางเมตร ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ และได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ เซลล์บนหลังคาเพิ่มเติมอีก 1 เมกะวัตต์ หากโครงการโซลาลอยน้ำนี้แล้วเสร็จจะ ส่งผลให้ทาง AAT มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระยะ 3 ปีนี้ที่ 14 เมกะวัตต์ ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำนวัตกรรมโซลาร์เซลล์ที่แข็งแกร่ง
การซื้อขายไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ (Floating Solar) ในครั้งนี้ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการลดใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ AAT ได้ยึดมั่นปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิตจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ตลอดอายุสัญญา 10 ปี ส่งผลให้ภายในระยะ เวลา 10 ปี AAT จะสามารถใช้พลังงานสะอาดสูงถึง 96 ล้านหน่วย ขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) ที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 54,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจก ซึ่งทาง AAT มีนโยบายการผลิตพลังงานใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็น RE100 (Renewable energy 100%) ในปี 2035
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 66)
Tags: WHAUP, ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์, หุ้นไทย