น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.95 กังวลแนวโน้มอุปสงค์จากจีนลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (3 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อาจได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของสงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส และนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน โดยเฉพาะจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 80.51 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 5.9% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 84.89 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 4.8% ในรอบสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันของจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก

ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการจีนปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนต.ค. เนื่องจากยอดขายในภาคบริการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และการจ้างงานชะลอลงเนื่องจากบริษัทเอกชนขาดความเชื่อมั่น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลง หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

นายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่า การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมีแนวโน้มที่จะลุกลามเป็นสงครามในระดับภูมิภาค และฮิซบอลเลาะห์มีเป้าหมายหลักในการทำให้ฮามาสมีชัยชนะเหนืออิสราเอล และยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้อยแถลงของนายนาสราลเลาะห์ในวันนี้ไม่รุนแรงอย่างที่มีการคาดการณ์ไว้ โดยไม่มีการประกาศสงครามโดยตรงต่ออิสราเอล และไม่มีการปลุกระดมให้นักรบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เพิ่มการโจมตีอิสราเอลแต่อย่างใด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 66)

Tags: ,