สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมากในขณะนี้กำลังบีบให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องลดการใช้จ่ายด้านกลาโหมระยะเวลา 5 ปีซึ่งมีมูลค่า 43.5 ล้านล้านเยน โดยงบประมาณดังกล่าวถือเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้จีนรุกรานไต้หวัน
แหล่งข่าวระบุว่า นับตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยแผนการใช้จ่ายด้านงบประมาณดังกล่าวในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว มูลค่าของเงินเยนลดลงไปแล้วถึง 10% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องลดแผนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมเนื่องจากเมื่อคำนวณเป็นสกุลเงินดอลลาร์แล้วมีมูลค่าสูงถึง 3.20 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่น 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมและแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมจำนวน 5 คนซึ่งกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มลดการซื้อเครื่องบินในปี 2567 เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตั้งสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเยนไว้ที่ 108 เยนต่อดอลลาร์เมื่อมีการเริ่มคำนวณแผนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมในเดือนธ.ค. 2565 แต่นับจนถึงช่วงต้นเดือนพ.ย.ปีนี้ เงินเยนได้ทรุดตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 151 เยนต่อดอลลาร์ ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ดำเนินการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการปูทางสู่การยุติใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินในการประชุมเมื่อวันอังคาร (31 ต.ค.) ด้วยการกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นไม่มีแนวทางป้องกันความเสี่ยงจากการความผันผวนของค่าเงินเหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลญี่ปุ่นแทบไม่มีทางเลือกในการลดต้นทุนเงินเยนที่สูงขึ้นในการซื้อจรวดโทมาฮอว์ก และเครื่องบินขับไล่ F-35
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 66)
Tags: ญี่ปุ่น, รัฐบาลญี่ปุ่น, เงินเยน