ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 11 จุด ตามตลาดต่างประเทศที่รับปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) ขึ้นทำนิวไฮรอบ 16 ปี และประธานเฟดส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ขณะที่สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสดูขยายวงกว้าง เป็นแรงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับฐาน
เมื่อเวลา 10.46 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,411.66 จุด ลดลง 11.38 จุด (-0.80%)
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย รับแรงกดดันจาก Bond Yield สหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งทะลุ 5% ทำนิวไฮในรอบ 16 ปี และสหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ตลาดกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเมื่อคืนนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ระดับสูงเกินไป โดยแย้มว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ทำให้ตลาดกังวล
นอกจากนี้สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ดูท่าทียังไม่จบง่ายๆ หลังจากนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมขอสภาคองเกรสเพิ่มงบเพื่อช่วยอิสราเอล ทำให้สงครามครั้งนี้น่าจะบานปลายก็เป็นแรงกดดันตลาดอีกด้าน ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐาน รวมถึงตลาดหุ้นไทย ทั้งที่ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 3/66 ออกมาดี อาทิ BBL KTB KBANK
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ ให้แนวรับ 1,405 จุด แนวต้าน 1,420 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย