ข้อมูลจากมารีนทราฟฟิก (MarineTraffic) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการเดินเรือเปิดเผยว่า เรือบรรทุกสินค้า 3 ลำเดินทางออกจากท่าเรือในทะเลดำของยูเครนหลังจากบรรทุกสินค้าในวันนี้ (1 ต.ค.) นับเป็นการเดินเรือครั้งล่าสุดนับตั้งแต่ที่ยูเครนจัดตั้ง “ทางเดินเพื่อมนุษยธรรม” ชั่วคราว หลังจากที่รัสเซียถอนข้อตกลงที่อนุญาตให้การส่งออกสินค้าของยูเครนเป็นไปได้อย่างปลอดภัย
นายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า เรือบรรทุกสินค้า 3 ลำกำลังมุ่งหน้าไปยังท่าเรือในทะเลดำของยูเครนเพื่อส่งออกอาหารและเหล็กกล้าเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เรือเทกองอซารา (Azara), หยิง ห่าว 01 (Ying Hao) และ เอเนดา (Eneida) มีกำหนดการที่ต้องบรรทุกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและแร่เหล็กจำนวน 127,000 ตัน ให้กับจีน อียิปต์ และสเปน
นอกจากนี้ ข้อมูลจากมารีนทราฟฟิกยังแสดงให้เห็นอีกว่า เรือเทกองลำใหม่อีก 4 ลำ ได้เข้าสู่น่านน้ำของยูเครนเรียบร้อยแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่ท่าเรือในทะเลดำ โดยระบบระบุว่า เรือทั้ง 4 ลำคือ ออลก้า (Olga), ไอด้า (Ida), ฟอร์ซา โดเรีย (Forza Doria), และนิว เลกาซี (New Legacy)
หลังการรุกรานยูเครนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว รัสเซียได้ปิดล้อมท่าเรือในทะเลดำของยูเครน ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ธัญพืชที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันเป็นการกระทำที่ยูเครนและชาติตะวันตกมองว่าเป็นความพยายามในการใช้อุปทานด้านอาหารโลกเป็นตัวประกัน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียระบุว่า ท่าเรือเหล่านี้อาจถูกใช้เพื่อนำเข้าอาวุธได้
ทั้งนี้ ท่าเรือในทะเลดำได้กลับมาเปิดใช้งานอีกครั้งในเดือนก.ค. 2565 ภายใต้ข้อตกลงที่สหประชาชาติ (UN) และตุรกีเป็นตัวกลาง ซึ่งเปิดโอกาสให้รัสเซียเข้ามาตรวจค้นอาวุธในเรือได้ ก่อนที่รัสเซียจะถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวในอีกหนึ่งปีต่อมา และดำเนินการปิดล้อมอีกครั้ง โดยระบุว่า เงื่อนไขของรัสเซียเกี่ยวกับการส่งออกอาหารและปุ๋ยยังคงไม่ได้รับการตอบสนอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 66)