สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า อาร์เซอร์ไบจานได้เปิดฉากโจมตีในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งเป็นดินแดนที่แยกตัวออกมาและปกครองโดยกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนีย แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากรัสเซียและสหรัฐ ให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่สงครามก็ตาม
รายงานระบุว่า อาร์เซอร์ไบจานเริ่มปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อการร้าย ในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) หลังจากที่กองกำลังส่วนหนึ่งถูกสังหารจากสิ่งที่อาร์เซอร์ไบจานเรียกว่า การโจมตีจากภูมิภาคภูเขา โดยคาราบัคได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน
นายนิโคล ปาชินียาน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนียกล่าวว่า คาราบัคถูกถล่มอย่างหนัก โดยหวังจะยั่วยุให้เกิดสงคราม พร้อมได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของรัสเซียเข้ามาทำหน้าที่ และเตือนว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่ายกำลังวางแผนเกี่ยวกับการยึดอำนาจในกรุงเยเรวาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาร์เมเนีย
ด้านกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียในคาบารัคกล่าวว่า อาร์เซอร์ไบจานได้จุดชนวนสงครามครั้งใหม่ต่อประชาชน 120,000 รายที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ ขณะที่ตุรกี ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ให้การสนับสนุนอาเซอร์ไบจาน เนื่องจากมีความผูกพันกันทางภาษา วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน ยุติการสู้รบทันที พร้อมกล่าวกับนายกรัฐมนตรีอาร์เมเนียว่า สหรัฐสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของอาร์เมเนีย
นอกจากนี้ ทางการรัสเซียก็ได้เรียกร้องให้สงบศึกเช่นกัน แม้เจ้าหน้าที่รัสเซียบางคนจะประณามอาร์เมเนียว่า พยายามเอาใจชาติตะวันตก และกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงได้
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ผ่านเทเลแกรมว่า “เราขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่ขัดแย้งกันยุติการนองเลือด หยุดการสู้รบ และหยุดยั้งการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนโดยทันที”
ทั้งนี้ สงครามที่เกิดขึ้นอาจเป็นการทำลายสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณเทือกเขาคอเคซัสใต้ ซึ่งรัสเซีย สหรัฐ ตุรกี และอิหร่านกำลังแย่งชิงอำนาจกันอยู่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 66)
Tags: คาราบัค, อาร์เซอร์ไบจาน