สำนักงานสถิติแห่งชาติตุรกีเปิดเผยในวันนี้ (4 ก.ย.) ว่า เงินเฟ้อตุรกีปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้เมื่อเดือนส.ค. ซึ่งตอกย้ำถึงปัญหาที่ธนาคารกลางตุรกี (CBRT) ต้องเผชิญ หลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อจัดการวิกฤตค่าครองชีพ
เงินเฟ้อตุรกีพุ่งขึ้นแตะ 58.9% ในเดือนส.ค.จากเกือบ 48% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 55.9%
เมื่อเทียบรายเดือน เงินเฟ้อตุรกีปรับตัวขึ้น 9.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เช่นเดียวกัน ขณะที่ เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมรายการสินค้าที่มีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 64.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี
การฟื้นฟูเสถียรภาพเงินเฟ้อกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. และได้ปรับทีมเศรษฐกิจใหม่โดยแต่งตั้งนายเมห์เมท ซิมเซค ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และนางฮาฟิซ กาเย เออร์คาน เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกี
ธนาคารกลางตุรกีได้ยุติยุคที่อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินอยู่ในระดับต่ำมากด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งสู่ระดับ 25% พร้อมแก้กฎระเบียบบางประการที่มีเป้าหมายเพื่อให้สินเชื่อมีดอกเบี้ยต่ำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 66)
Tags: ตุรกี, ธนาคารกลางตุรกี, เงินเฟ้อ