ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,721.91 จุด ลดลง 168.33 จุด หรือ -0.48%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,507.66 จุด ลดลง 7.21 จุด หรือ -0.16% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,034.97 จุด เพิ่มขึ้น 15.66 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 51% ที่เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนพ.ย.
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.21% และดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง 1.03%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ร่วงลงสู่ระดับ 4.09% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอะเมซอน พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.72% หุ้นเมตา แพลตฟอร์ม บวก 0.27%
หุ้นเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรและรายได้ในปีงบการเงิน 2566
หุ้นเทสลามีการซื้อขายคึกคักมากที่สุดในบรรดาหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 โดยหุ้นเทสลาปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.46% และมีมูลค่าการซื้อขาย 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง หลังจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยหุ้น JD.com และหุ้นไป่ตู้ ร่วงลง 2.2% และ 1.6% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาตลอดทั้งเดือนส.ค. ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 1.8%, ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.4% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.2%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวที่ระดับ 3.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 66)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก