นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยช่วง 6 เดือนแรก ยังเผชิญอยู่กับปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่ และภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่จะทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนปรับตัวลง ประกอบกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP อีกทั้งราคาที่อยู่อาศัยยังปรับตัวสูงขึ้น
โดยปัจจัยข้างต้นส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนของดีมานด์ และซัพพลายในตลาดที่อยู่อาศัย โดยที่ดีมานด์มีการปรับตัวลดลงของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขายใหม่ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และยังต้องการมาตรการกระตุ้นที่สำคัญ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความชัดเจน และตรงจุด และยังถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลใหม่ในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดหวังให้นโยบายของรัฐบาลใหม่ต้องชัดเจนและตรงจุดมากขึ้น
ขณะเดียวกันในส่วนของดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าหรือนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้น โดยกลุ่มชาวต่างชาติหลักๆที่เข้ามายังคงเป็นชาวสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามคาดหวังให้รัฐบาลใหม่มีการสร้างการดึงดดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาในซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น เช่น การปรับกฎเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้น หรือ On Top จากเดิม โดยเฉพาะการขยายระยะเวลาวีซ่า รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ และการสนับสนุนในเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามา เป็นดีมานด์ที่เข้ามาช่วยเสริม ประกอบกับช่วยลดผลกระทบจากดีมานด์ที่อาจจะอ่อนตัวลงบ้างจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอ
ในด้านของซัพพลายในปี 66 คาดว่าจะมีการออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ 80,643 หน่วย ลดลง 12.1% จากปี 65 ที่ 91,692 หน่วย และปี 67 จะเพิ่มขึ้น 3% ที่ 83,062 หน่วย หรือมีจำนวนพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้าง 34.09 ล้านตารางเมตร ลดลง 12.6% และปี 67 จะเพิ่มขึ้น 1.9% เป็น 34.75 ล้านตารางเมตร
ส่วนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน 82,144 หน่วย ลดลง 14.4% และปี 67 จะกลับมาเพิ่มขึ้น 4.6% เป็น 85,929 หน่วย
ส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 66 อยู่ที่ 336,062 หน่วย ลดลง 14.5% และปี 67 จะเพิ่มขึ้น 4.1% เป็น 349,910 หน่วย ด้วยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ ปี 66 ที่ 9.77 แสนล้านบาท ลดลง 8.2% และปี 67 จะเพิ่มขึ้น 4.6% เป็น 1.02 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯยังมีข่าวดีรับ 9 เดือน 9 ตลาดนัดบ้านมือสองเปิดให้ประชาชนขายบ้านฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดย REIC ได้มอบหมายจากคณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFls) ให้พัฒนาฐานข้อมูล “บ้านมือสอง” ภายใต้ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. 61 – 29 ก.พ. 68 ด้วย Go Live ระบบฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ www.taladnudbaan.com ปัจจุบันได้จัดทำสัญญาร่วมกัน (MOU) ร่วมกับ 25 หน่วย ซึ่งมีทรัพย์ประกาศขายผ่านเว็บไซต์กว่า 68,000 รายการทรัพย์ และวันที่ 9 ก.ย. 66 จะเปิดระบบให้ประชาชนฝากขายทรัพย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และปี 2566 วางเป้าหมายมีสมาชิกฝากขายไม่น้อยกว่า 3,000 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 66)
Tags: ที่อยู่อาศัย, บ้านมือสอง, วิชัย วิรัตกพันธ์, อสังหาริมทรัพย์