เวียดนาม นิวส์ (Vietnam News) สื่อท้องถิ่นของเวียดนาม รายงานว่า อุตสาหกรรมกาแฟของเวียดนามควรยกระดับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
ในฐานะผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ไปยังสหภาพยุโรป เวียดนามควรเตรียมความพร้อมสำหรับกฎหมายนี้ ซึ่งกำหนดว่า ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า หรือพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จึงจะมีสิทธิ์เข้าสู่ตลาดของสหภาพยุโรปได้
เวียดนาม นิวส์ ระบุโดยอ้างอิงสำนักงานการค้าเวียดนามในเบลเยียมว่า การบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนามเผยว่า การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของที่ดินทุกแปลง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฎระเบียบฯ ถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุด เนื่องจากเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ดำเนินงานจำนวนมาก จึงทำให้เวียดนามต้องพัฒนาฐานข้อมูลระดับชาติเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกป่าและกาแฟ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ นายเล มินห์ ฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เน้นย้ำในการประชุมเชิงปฏิบัติการว่า กฎระเบียบดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานของกาแฟ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ รวมถึงยาง อย่างไรก็ตาม ยังถือเป็นโอกาสสำหรับภาคการเกษตรของเวียดนามในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีความโปร่งใส รับผิดชอบ ยั่งยืน และเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อนึ่ง รายงานการนำเข้า-ส่งออกของเวียดนามระบุว่า ในปี 2565 เวียดนามสร้างรายได้จากการส่งออกกาแฟสู่ตลาดสหภาพยุโรปเป็นมูลค่า 1.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.3 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็น 40% ของการส่งออกกาแฟทั้งหมดของเวียดนาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 66)
Tags: XINHUA, กาแฟ, ป่าไม้, สหภาพยุโรป, เวียดนาม