น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ ถึงการไปทำบุญที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ได้โอกาสทำบุญและอวยพรให้คุณพ่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางกลับด้วยความราบรื่น เมื่อถามว่าการเดินทางกลับของนายทักษิณถือเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดให้กับตัวเองที่มีอายุครบ 37 ปีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าปกติเวลาพูดคุยกันเองในครอบครัวพูดเสมอว่า ถ้าพ่อกลับเมื่อไหร่ ก็ถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และใกล้วันเกิดของตนเองก็ถือเป็นของขวัญวันเกิดแน่นอน
เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความปลอดภัยขอรวมไปถึงเรื่องการเดินทางมาถึงแล้วรวมถึงเรื่องสุขภาพ ที่ตนอยากให้ท่านปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรง เพราะเมื่อเดินทางมาถึงก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน เมื่อถามอีกว่านักวิชาการมีการวิเคราะห์กันว่าเมื่อเดินทางกลับของนายทักษิณถือเป็นตัวประกันทางการเมือง และมีการเชื่อมโยงไปถึงการโหวตแคนดิเดตนายกฯในวันที่ 22 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่าคุณพ่อถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อถือเป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิ์กลับมาในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ผ่านมา 17 ปีแล้วทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กันก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คนแล้วอยากกลับมาเลี้ยง นี่เป็นข้อแรกเสมอที่คุณพ่อพูดเมื่อถึงการจะกลับมา ดังนั้นตนเข้าใจในบทบาทของคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องการเมือง หรือเรื่องเป็นตัวประกัน ท่านคิดว่ากลับมาแล้วปลอดภัยรอวันที่จะได้กลับมาอยู่กับลูกหลาน
ส่วนที่มีการพูดไปถึงว่าการกลับมาครั้งนี้จะถูกหลอกหรือเป็นเหยื่อทางการเมือง น.ส.แพทองธาร ถามกลับทันทีว่า ถูกใครหลอก จริงๆ แล้วคุณพ่อออกไป 17 ปีแล้ว ก็จะมีหลายข้อมูลที่ได้รับ ทั้งข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่ถูก ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว 17 ปีผ่านอะไรมากันเยอะมาก ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของท่านเองไม่ได้มีใครหลอก หรือท่านก็ไม่ได้หลอกใคร ซึ่งการเดินทางกลับมาครั้งนี้เป็นการตกลงกันภายในครอบครัวท่านถึงตัดสินใจกลับมา
เมื่อถามว่ามีการประเมินว่าหากการโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ไม่ผ่านอาจจะต้องมีการเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ซึ่งก็จะกลายเป็นตัวประกันทางการเมือง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “อยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ขึ้น การที่คุณพ่อกลับมาเป็นเรื่องของคุณพ่อกลับมา เพราะอยากกลับมาอยู่กับครอบครัว นี่คือเรื่องที่ชัดเจนมากๆ ส่วนเรื่องของการเมืองขอให้เป็นเรื่องการเมืองของพรรคเพื่อไทย การกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย และคดีของคุณพ่อต่างๆก็ไม่ได้เกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ดังนั้นอยากให้แยก 2 เรื่องนี้ออกจากกันอย่างชัดเจน”
เมื่อถามว่านายทักษิณเดินทางกลับในวันที่ 22 ส.ค. ตรงกับวันโหวตนายกฯไม่สามารถปฏิเสธความเชื่อมโยงนี้ได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆเลย เพราะวันที่ 22 ส.ค.นี้ คุณพ่อประกาศตกลงที่จะกลับมาก่อนที่จะมีการประกาศโหวตนายกฯ และส่วนตัวนับวันแล้วยังคิดว่าจะโหวตนายกฯวันที่ 18 ส.ค.นี้ด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณพ่อบอกจะกลับมาวันที่ 31 ก.ค.ซึ่งตรงกับวันหยุด คุณพ่อก็เลยเปลี่ยนซึ่งตนเองก็ได้ช่วยดูปฏิทินวันไหนฤกษ์ดี ก็คือวันที่ 10 ส.ค. ที่ประกาศไป แต่คุณพ่อต้องไปตรวจสุขภาพ แต่ละส่วนในร่างกาย ในแต่ละสถานที่กัน ฉะนั้นจึงทำให้เลยวันที่ 10 ส.ค.ไป จึงหาวันฤกษ์ดีวันใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 22 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ ทางครอบครัวรู้กันก่อนที่จะมีวันประกาศวันโหวตนายกฯ
เมื่อถามว่าการตรวจสุขภาพของนายทักษิณถือว่าตอนนี้โอเคแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อตรวจสุขภาพทุกปี บางครั้งก็มีปัญหาบ้าง ก็ต้องมีการฟอลโลอัพกัน ตอนนี้คุณพ่ออายุ 74 ปีแล้ว และความจริงท่านก็เป็นคนแข็งแรงอยู่ต่างประเทศท่านก็มีผ่าตัดเล็กน้อยบ้าง แต่พอตอนนี้อายุเข้า 74 ปีต้องตรวจสุขภาพปีละ 2 ครั้ง
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าต้องมีการดูฤกษ์ดูยามในการเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็ต้องดูนิดนึง ดูไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี วันฤกษ์ดีทุกคนก็อยากให้ทุกวันเป็นวันที่ดี เมื่อถามอีกว่ามีโอกาสจะเลื่อนเดินทางกลับ อีกหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี ย้ำว่าวันที่ 22 ส.ค.นี้แน่นอน เมื่อถามถึงดีลกับฝ่ายผู้มีอำนาจ จบแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ดีลอะไร ดีลฝ่ายไหน ยืนยันว่าไม่ได้ดีลกับใครเลย
ส่วนขั้นตอนการเดินทางกลับของนายทักษิณที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อจะเดินทางกลับมาที่สนามบินดอนเมือง ในเวลา 09.00 น.โดยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งครอบครัวมารอรับ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากนั้นจะต้องมาดูต่อว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ จะไม่มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ซึ่งครอบครัวได้มีการดำเนินการอะไรไว้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องถามคุณพ่อก่อนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าครอบครัวต้องเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อว่าจะให้ทำอย่างไร เดี๋ยวก็คงจะได้ทราบกัน เมื่อถามถึงกระบวนการยุติธรรมล่าสุดที่มีการเปิดเผยจำนวนปีที่ต้องถูกจำคุกประมาณ 5 ปีนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องของคดีตนขอไม่ไปแตะ เพราะกลัวจะพูดข้อมูลไม่ตรงหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไป เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวสั้นๆว่า ยัง เมื่อถามด้วยว่าการเดินทางกลับของนายทักษิณพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนตัวยอมรับได้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวย้ำว่า ยอมรับ ตนคิดว่ามันคือการตัดสินใจของคุณพ่อถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวซัพพอร์ตเต็มที่แน่นอน
เมื่อถามถึงการโหวตนายกฯคนที่ 30 ในวันที่ 22 ส.ค. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่ ซึ่งมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ ยืนยันว่าเรามั่นใจและอยากตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และใช้นโยบายพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาให้กับประชาชน เมื่อถามว่าหากนายเศรษฐาโหวตไม่ผ่านจะมาถึงคิวของ น.ส.แพทองธารนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่นายเศรษฐาก่อน อย่าเพิ่ง โฟกัสตนเอง เพราะหากเราโฟกัสหลายจุดมันก็จะไม่มั่นคง ดังนั้นเราทำเต็มที่เสนอชื่อนายเศรษฐาและหวังว่าจะสำเร็จ และตั้งรัฐบาลให้กับประชาชน เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการโหวตนายกฯจะม้วนเดียวจบภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็หวังเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการหาเสียงก่อนหน้านี้ ทั้งของนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง แต่วันนี้กลายเป็นกระแสโจมตีพรรคเพื่อไทยหนักมาก น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอพูดตรงๆเลยว่า อย่างวันนั้นที่เขาบอกว่าเราไม่ชัดเจน เราหาเสียงและพยายามทำโพลทุกอย่าง เพื่อเราอยากได้แลนด์สไลด์ แต่เราทำแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ ดังนั้นที่ยังไม่ชัดเจน เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 มีเรื่องของสว.อยู่ ซึ่งเราเคยผ่านมาก่อน คือชนะการเลือกตั้งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นเราทราบดี ว่าการไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลมันสามารถเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นบางคนอาจจะมีความชัดเจนหรือไม่ชัดเจนในบางที แต่เรามีความตั้งใจ แล้ววันนี้เมื่อไม่เป็นอย่างที่เราคิด มันไม่เป็นไปตามที่เราแพลนไว้เราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ประเทศชาติไปต่อ แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่จะต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เราขอน้อมรับ และก็ต้องขอโทษที่ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวัง หรือเสียใจ แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วเราทำเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่มีอยู่มากมาย และเราก็จะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ไปให้ได้ด้วยความเข้มแข็ง ด้วยการเอาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามว่าปฎิเสธไม่ได้ว่ามีข้อกังขากับตัวของนายเศรษฐา ได้มีแผนสำรองอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราเช็คตามข้อกฎหมายทุกอย่าง ถ้าเราจะดูตามเสียงของคนที่พูดว่าผิดอย่างนั้น อย่างนี้ โดยหลักฐานมันไม่มี ซึ่งหลักฐานที่นายเศรษฐาเอามาเปิดเผยก็ชัดเจน ดังนั้นจะต้องมีหลักฐาน ซึ่งบริษัท แสนสิริก็เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าสามารถตรวจสอบได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งนี้ตนอยากให้ฟังข้อมูลเป็นตัวสำคัญในการตัดสินใจ เมื่อถามอีกว่าน.ส.แพทองธาร สนใจตำแหน่งรัฐมนตรีหรือทำงานในพรรคมากกว่า น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เน้นทำงานพรรค สื่อต่างๆมอบตำแหน่งให้หลายตำแหน่ง ทั้งตำแหน่งรองนายกฯและตำแหน่งรัฐมนตรี รู้สึกดีใจมาก ก็ต้องขอขอบคุณ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 66)
Tags: ทักษิณ ชินวัตร, แพทองธาร ชินวัตร