สนพ. ชี้แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูง

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า จีนมีแนวโน้มความต้องการใช้เชื้อเพลิงสูงขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

ประกอบกับสัญญาณความต้องการใช้น้ำมันดิบตึงตัว จากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส นำโดยซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย โดยซาอุฯ ได้ขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นเดือนส.ค. 66 และประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ส่งมายังคู่ค้าในเอเชียอีกด้วย

ในขณะที่รัสเซีย ได้ลดการส่งออกน้ำมันกว่า 500,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนก.ค. 66 จนถึงสิ้นปี ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงกว่า 1.5% อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จากทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ยังคงชะลออุปสงค์น้ำมันโลกโดยรวม

*ราคาน้ำมันโลก เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว

ภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 17-23 ก.ค. 66) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์ เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 80.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 75.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 0.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ใกล้จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. 66 ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศลดลง 0.5%

นอกจากนี้ ตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากการปรับลดกลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส รวมถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมไปถึงจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในเดือนมิ.ย. 66 กว่า 10.5 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 44% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับความคาดหวังว่าจีนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ครอบคลุมถึงการฟื้นฟูอุปสงค์และการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย

นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับค่าเงินบาทของไทย แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.58 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 34.4056 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 0.55 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซล ลดลง 0.02 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.44 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 6 ส.ค. 66 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 42,632 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 93,070 ล้านบาท แบ่งเป็น ติดลบจากบัญชีน้ำมัน 5,323 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,115 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 66)

Tags: , , ,