ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันเป็นหนี้บัตรเครดิตสูงกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก แม้ว่าภาพรวมของภาระหนี้สินในภาคครัวเรือนแทบไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม
เฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยรายงานรายไตรมาสเกี่ยวกับหนี้ภาคครัวเรือนและสินเชื่อในวันอังคาร (8 ส.ค.) โดยระบุว่า หนี้บัตรเครดิตของชาวอเมริกันในไตรมาส 2/2566 พุ่งขึ้น 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ แตะระดับ 1.03 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าก็ปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ส่วนหนี้สินภาคครัวเรือนขยับขึ้นเพียง 0.1% สู่ระดับ 17.06 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากหนี้เงินกู้จำนองซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของหนี้สินภาคครัวเรือนนั้น แทบไม่เปลี่ยนแปลง
ทีมวิจัยของเฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า “แม้ว่าภาคครัวเรือนของสหรัฐเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อหลังช่วงโควิด-19 และการล่มสลายของธนาคารหลายแห่ง แต่แทบจะไม่พบหลักฐานว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความวิตกกังวลด้านการเงิน”
รายงานของเฟดสาขานิวยอร์กยังระบุด้วยว่า ยอดเงินกู้เพื่อการศึกษาลดลง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.57 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เนื่องจากระยะเวลาของปีการศึกษาลดลง และจากการที่รัฐบาลเริ่มใช้นโยบายยกหนี้สินบางส่วนให้กับผู้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ส.ค. 66)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, หนี้, หนี้บัตรเครดิต, เฟด