CIVIL แย้มแผนขยายงานเอกชนกลุ่มพลังงาน-อสังหาชัดเจนต้นปีหน้า วางเป้ากวาดรายได้หมื่นล้านปี 73

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง 66 คาดว่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการทยอยส่งมอบงานมากขึ้น โดยหลักๆ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟและทางรถไฟความเร็วสูง ปัจจุบันบริษัทมูลค่างานรอโอน (Backlog) รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังส่วนหนึ่ง ทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 6 พันล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีงานที่ชนะประมูลและอยู่ระหว่างรอการทยอยเซ็นสัญญา 6 โครงการ เป็นงานก่อสร้างถนน และรถไฟฟ้าความเร็วสูง มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ทำให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมี Backlog รวมแตะ 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 69 ส่วนงานประมูลใหม่ยังคงต้องรอติดตามความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งปัจจุบันในช่วงที่อยู่ระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ยังไม่สามารถเดินหน้าเปิดประมูลได้ ผู้รับเหมาต่างก็ยังคงรอความชัดเจน และคาดหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะสามารถได้ข้อสรุปได้ไม่นานมากเกินไป เพราะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายการรับงานในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และกระจายความเสี่ยง โดยสนใจงานกลุ่มพลังงานทดแทนและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ความชำนาญจากความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมาต่อยอดในการสร้างโอกาสการขยายธุรกิจ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี 67

ขณะเดียวกัน บริษัทยังศึกษาความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการรับงานก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการเข้ารับงานใหม่ รวมถึงการเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยเฉพาะโครงการทางด่วน กะทู้-ป่าตอง ที่บริษัทยังสนใจ แม้ว่าการเปิดขายซองครั้งล่าสุด ไม่มีผู้เข้ามาซื้อซอง ซึ่งประเด็นดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อทำให้เกิดความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น

นายปิยะดิษฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัทวางเป้าหมายภายในปี 73 บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีบริษัทจะเดิหนน้าในการประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และจะมีการรับงานภาคเอกชนเข้ามาเสริม ทำให้รายได้ของบริษัภายในปี 73 จะมีงานเอกชนเพิ่มขึ้นมาเป็น 20% จากปัจจุบันที่ 5% ส่วงานภาครัฐจะมาอยู่ที่ 80% จากปัจจุบันที่ 95% เพื่อทำให้รายได้ของบริษัทเกิดความสมดุล และมีรายได้ที่เติบโตขึ้นได้ต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 66)

Tags: , ,