ก.ล.ต.เปิดรับฟังร่างประกาศออกเกณฑ์บังคับใช้ชั่วคราวของ TFEX และสำนักหักบัญชีฯ TFEX

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศการออกกฎเกณฑ์เพื่อใช้บังคับเป็นการชั่วคราวของศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ศูนย์ซื้อขายสัญญาฯ) และสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สำนักหักบัญชีสัญญาฯ) กรณีที่มีความจำเป็น โดยไม่ต้องรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 (พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายฯ) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนโดยรวม

ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติเห็นชอบหลักการในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรณีที่มีความจำเป็น ศูนย์ซื้อขายสัญญาฯ และสำนักหักบัญชีสัญญาฯ จะออกกฎเกณฑ์เพื่อใช้บังคับเป็นการชั่วคราวได้ตามหลักการที่กำหนด เช่น กรณีมีความจำเป็นในเหตุการณ์ไม่ปกติ เป็นต้น โดยกฎเกณฑ์ดังกล่าวต้องออกมาเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ลงทุนและ/หรือตลาดทุนโดยรวม และจะสิ้นผลเมื่อเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ตามมาตรา 66 และมาตรา 89 แห่ง พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายฯ และ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟัง ความคิดเห็นต่อหลักการดังกล่าวในเดือนมีนาคม – เมษายน 2566 ซึ่งผู้ให้ความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่เสนอ โดยมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 คณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 6/2566 มีมติเห็นชอบการทบทวนหลักการในการจัดทำกฎหมายลำดับรองของศูนย์ซื้อขายสัญญาฯ และสำนักหักบัญชีสัญญาฯ ดังกล่าวให้ชัดเจนขึ้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเพื่อให้ศูนย์ซื้อขายสัญญาฯ และสำนักหักบัญชีสัญญาฯ สามารถออกกฎเกณฑ์เพื่อใช้บังคับเป็นการชั่วคราวได้ตามที่กล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ.สัญญาซื้อขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนโดยรวม

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=925 โดยผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: korpsak@sec.or.th หรือ pimpicha@sec.or.th หรือ napaporng@sec.or.th จนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2566

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 66)

Tags: ,