ดาวโจนส์ปิดบวก 71.15 จุด ตลาดจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (1 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐ และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทอะเมซอน และแอปเปิ้ล อิงค์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,630.68 จุด เพิ่มขึ้น 71.15 จุด หรือ +0.20%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,576.73 จุด ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.27% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,283.91 จุด ลดลง 62.11 จุด หรือ -0.43%

ทิม เลสโค นักวิเคราะห์จากบริษัท Mariner Wealth Advisors แสดงความเห็นว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดผันผวนเมื่อคืนนี้มาจากการที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติแข็งแกร่งในเดือนก.ค. โดยส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ตลอดเดือนก.ค. ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 3.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เช่นกัน ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.4% และในระหว่างเดือนก.ค.นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 13 วันทำการ ซึ่งทำสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530

หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือด้านการก่อสร้างรายใหญ่และเป็นตัวชี้วัดทิศทางโดยรวมของเศรษฐกิจโลก พุ่งขึ้น 8.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี บริษัทเตือนว่ายอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นอาจชะลอตัวลงในไตรมาส 3

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเทสลา ร่วงลง 2.38% หุ้นอะเมซอน ลดลง 1.5% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.9%

หุ้นอูเบอร์ ดิ่งลง 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 ขณะที่หุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.25% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 เช่นกัน อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของยอดขายผลิตภัณฑ์รักษาโรคโควิด-19

หุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทเรือสำราญรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 12.1% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรในไตรมาส 3 โดยระบุถึงผลกระทบของต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP และวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 66)

Tags: , , ,