กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค. ลดลง 16.5% เมื่อเทียบรายปี สู่าระดับ 5.033 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 14.5% และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน เนื่องจากอุปสงค์เซมิคอนดักเตอรในตลาดโลกชะลอตัวลง
ส่วนยอดนำเข้าทรุดตัวลง 25.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 4.871 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 24.6% หลังจากเกาหลีใต้นำเข้าพลังงานลดลงถึง 47% โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 1.63 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเกินดุลติดต่อกันเดือนที่ 2
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 0.3% แม้ว่าการส่งออกปรับตัวลงก็ตาม
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2565
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงมีการขยายตัว แม้ว่ายอดการส่งออกในไตรมาส 2 ปรับตัวลง 1.8% ส่วนยอดการนำเข้าร่วงลง 4.2% ในไตรมาส 2 โดยถูกกดดันจากการลดลงของยอดนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 66)