“วิษณุ” ชี้ช่อง “ทักษิณ” ยื่นขออภัยโทษได้ทันทีหลังคุมขัง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรม เผยขั้นตอนรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการบังคับโทษตามคำพิพากษาหลังเดินทานกลับไทยว่า ได้เตรียมการไว้ตามปกติแล้ว หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังรู้ข่าวการประกาศเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้แล้วก็เชื่อว่าจะมีการเตรียมการไว้ แต่เร็วไปที่จะบอกว่าเตรียมการในเรื่องใดบ้าง

นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อนายทักษิณ เดินทางมาถึงก็จะเข้าเรือนจำเลย แต่ต้องเดินทางไปรับหมายศาลที่ศาลฎีกา ไม่ใช่ไปฟังคำพิพากษา ส่วนคดีที่เหลือก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งไม่รู้ว่ายังเหลืออีกกี่คดี แต่เท่าที่ทราบคือนายทักษิณ ถูกตัดสินลงโทษไป 3 คดี รวมโทษจำคุก 10 ปี ซึ่งบางคดีหมดอายุความไปแล้ว บางคดียังไม่หมดอายุความ และบางคดียังไม่ได้ฟ้อง ซึ่งเป็นคดีเล็กน้อย เช่น การหลบหนีออกนอกประเทศที่ต้องถูกฟ้องในอีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งจะฟ้องเมื่อเดินทางกลับมา ก็จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะฟ้องหรือไม่

นายวิษณุ กล่าวา การรับโทษของนายทักษิณไม่สามารถกักขังที่บ้านได้ ต้องเข้าเรือนจำ ส่วนระยะเวลาการถูกคุมขังก็แล้วแต่กรมราชทัณฑ์ และการขอพระราชทานอภัยโทษก็สามารถทำได้ใน 24 ชั่วโมงที่ถูกคุมขัง ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่านายทักษิณจะขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ตนจะไปพูดแทนไม่ได้ และขึ้นอยู่กับนายทักษิณที่จะเขียนฎีกาถวาย เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แต่หากไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ลงมา ก็ต้องเว้นไปอีกสองปี

การขอพระราชทานอภัยโทษนั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องขังทุกคน แต่มีเงื่อนไขต้องอยู่ระหว่างการรับโทษ เมื่อรับโทษแล้วก็สามารถที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้

สำหรับห้องขังนั้นได้เตรียมการไว้ตั้งแต่การประกาศก่อนหน้านี้ แต่ตนไม่ทราบว่าทันทีที่นายทักษิณ เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วจะมีการปรากฏตัวให้ทุกคนได้พบเห็นเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่

การที่นายทักษิณมีอายุ 74 ปีแล้วก็จะได้รับสิทธิพิเศษต่างไปจากนักโทษทั่วไป เพราะมีอายุ 70 ปีขึ้นไป และถ้าเป็นผู้ป่วยจะมีสิทธิพิเศษบางอย่าง แต่ทุกคนจะเท่ากันหมด ส่วนจะได้ไปอยู่โรงพยาบาลหรือไม่ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์จะพิจารณานักโทษแต่ละราย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ดูแลนักโทษมาตลอด และไม่ได้ยุ่งยากอะไร

ส่วนการเยี่ยมขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำนั้นก็เป็นไปตามปกติ ครอบครัวสามารถเข้าเยี่ยมได้ตั้งแต่วันแรก และคนในครอบครัวสามารถที่จะเดินทางไปรับตัวนายทักษิณได้ที่สนามบินเช่นเดียวกับทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชน แต่จะได้ขนาดไหนนั้นยังไม่ทราบ และไม่รู้ว่าจะได้เห็นภาพนายทักษิณ ก้มกราบแผ่นดินไทยอีกครั้งหรือไม่ เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะมาสายการบินใดและลงสนามบินไหน แม้จะรู้ว่าลงที่สนามบินดอนเมือง แต่ก็ยังมีท่าอากาศยานทหาร (บน.6) และท่าอากาศยานพาณิชย์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและนำตัวไปศาล เพื่อให้ศาลออกหมายขัง

ทั้งนี้ ได้กำชับกรมราชทัณฑ์ใน 3 เรื่องเป็นพิเศษ คือ 1.ให้ดูแลด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจจะทำให้นายทักษิณได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากนักโทษคนอื่น เพราะนายทักษิณมีปัจจัยเสี่ยง 2.ให้มีความสะดวกตามสมควร แต่ไม่มีอภิสิทธิ์มาก เนื่องจากจะมีคนเข้าเยี่ยม โดยคาดการณ์ว่า อาจมีองค์การระหว่างประเทศ นักสิทธิมนุษยชน แฟนคลับและมวลชนเข้าเยี่ยม และ 3.ให้มีความสบายตามสมควร แต่ไม่สบายมากนัก เนื่องจากอายุเกิน 70 ปี และมีอาการป่วยจึงต้องดูแล ไม่เหมือนกับคนที่มีอายุ 25 หรือ 30 ปี

สำหรับในเรือนจำยอมรับว่ามีห้องพิเศษที่ให้อยู่เพียงคนเดียว เช่นเดียวกับสมัยนายราเกซ สักเสนา, นายวิโรจน์ นวลแข และอีกหลายคนก็ได้รับการดูแลเช่นนี้ ส่วนห้องพักจะติดเครื่องปรับอากาศหรือไม่นั้นตนไม่ยืนยัน แต่เท่าที่ทราบมีห้องปรับอากาศให้นักโทษเข้าไปทำงานได้ แต่ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์

การที่นายทักษิณกลับมาอาจเป็นช่วงที่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมีผลอะไรหรือไม่ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีคนใหม่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 66)

Tags: , , ,