นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวถึงการประกาศเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ามีกระบวนอย่างไร แต่หลักทั่วไปประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เข้ากระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล
พร้อมปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าวแกนนำก้าวไกลบินไปเจรจาพบนายทักษิณที่ฮ่องกง โดยระบุว่า ไม่น่าจะใช่ ไม่น่าจะมีการคุยกันตามที่เป็นข่าว
ส่วนการเจรจาต่อรองเข้าร่วมรัฐบาล โดยให้ลดเพดานเรื่องแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นต้องรอการประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ ก่อน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จสิ้นก่อนที่นายทักษิณจะกลับไทยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบจริงๆ ว่ามีรายละเอียดหรือจังหวะเวลาอย่างไร
ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้มาตรา 112 ล้มล้างการปกครอง และให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนั้น ฝ่ายกฏหมายได้ดำเนินการยื่นขอขยายเวลาในการชี้แจง ซึ่งต้องรอดูว่าศาลอนุญาตให้ขยายเวลาได้กี่วัน โดยคำร้องเป็นการขอให้ยุติการกระทำที่กล่าวหาว่าล้มล้างการปกครอง ยังไม่ได้ไปไกลถึงขั้นยุบพรรค แต่ก็ไม่ประมาท ต้องประเมินถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเพื่อป้องกันไว้ทุกทาง
นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีมาตรา 41 โดยมองว่าน่าจะหากลไกของสภาในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นต่อไปสภาจะทำอะไรได้ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญทุกอย่าง
สำหรับโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะพลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่สิ่งที่เราอยากผลักดัน คือ มีการปลดล็อกมติที่น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้การเสนอชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อซ้ำไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไปกดดันให้การจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาได้ และไม่ใช่เรื่องของแคนดิเดทจากพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว
อย่างไรก็ตาม หากปลดล็อกได้มีโอกาสจะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้างวไกลเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีซ้ำหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เบื้องต้นสถานการณ์ตอนนี้พรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากพรรคเพื่อไทยว่าจะมีการประชุมครั้งต่อไปเมื่อไร และอาจจะมีการงดประชุมสภาไปด้วย ทางพรรคเพื่อไทยต้องการเวลาที่จะนำข้อมูลต่างๆ มานำเสนอที่ประชุม 8 พรรคร่วมอีกครั้ง
ส่วนกระแสข่าวการฉีก MOU ของ 8 พรรคร่วมนั้นต้องรอที่ประชุม แต่ก้าวไกลมีจุดยืนชัดเจนว่า จะพยายามดีที่สุดให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามผลการเลือกตั้ง และอย่าเพิ่งไปประเมินว่าจะไปขั้นฉีก MOU หรือไม่ การเมืองทุกอย่างเป็นไปได้ แต่ขอให้รอการประชุมดีกว่าและไม่ได้พูดคุยกับพรรคพลังสังคมใหม่ที่มีการเสนอเรื่องนี้
ขณะนี้ยังพยายามพูดคุยกับ สว.ที่สามารถคุยได้ถึงความเป็นไปได้ที่จะโหวตให้แคนดิเดทนายกฯ ของเพื่อไทย คงต้องช่วยๆ กัน เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นภาระของทุกพรรค ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง และยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งต้องเคารพความเห็นของทุกคน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยนั้น สิ่งสำคัญ คือ ความคาดหวังและความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วอำนาจเดิม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 66)
Tags: ก้าวไกล, ชัยธวัช ตุลาธน, ทักษิณ ชินวัตร