ปชป. ลั่นไม่ได้ส่งใครไปดีลร่วมตั้งรัฐบาล ชี้เป็นหน้าที่ 8 พรรคร่วม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) จะขอเสียงสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคการเมืองอื่นว่า ในส่วนของ ปชป.ยังไม่มีการหารือหรือพูดคุยกับเรื่องนี้ เพราะถือว่าขณะนี้เป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง และเท่าที่ติดตามก็มีความชัดเจนว่ากำลังดำเนินการอยู่ แต่หากมีการทาบทามเข้ามา ก็ต้องขอมติจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค

“ขณะนี้ ต้องถือว่า 312 เสียง 8 พรรค ยังมีหน้าที่ในการตั้งรัฐบาลอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการเจรจาอะไรทั้งสิ้น ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการจับขั้วรัฐบาล เพราะมีความชัดเจนของพรรคแกนนำทั้ง 312 เสียงอยู่แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการมอบให้ใครไปเจรจาอะไรทั้งสิ้น ผมเองก็ไม่เคยไปเจรจากับใครในเรื่องของการตั้งรัฐบาล” นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับท่าทีของ ปชป.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี หากมีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงก็มีความชัดเจนในเรื่องของตัวบุคคลอยู่แล้วจากการลงมติที่ผ่านมา ส่วนการจับขั้วใหม่นั้นยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะยังไม่มีการคุยกัน

“การที่จะตอบอะไรสำหรับ ปชป. ต้องเป็นเรื่องของมติที่ประชุมร่วมของกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรค ซึ่งยังไม่มีการนัดประชุมหารือถึงเรื่องนี้เลย หากมีการโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปชป.จะประชุม สส.พรรคก่อนการพิจารณาในวันที่ 27 ก.ค.66 ซึ่งนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธาน สส.จะเป็นผู้นัดประชุม” นายจุรินทร์ ระบุ

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย ที่จะขอเสียงสนับสนุนจากประชาธิปัตย์ หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล

“ถ้าติดต่อมาจะแจ้งให้ทราบ แต่ขณะนี้ยังไม่มี” นายเฉลิมชัย กล่าว

ส่วนถ้ายังมีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไรนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ได้เคยพูดชัดไปแล้วว่าเราไม่ได้ปฏิเสธพรรคก้าวไกล แต่เราปฏิเสธแนวทาง นโยบาย และแนวความคิด เรื่องแก้มาตรา 112 ดังนั้นตราบใดที่มาตรา 112 ยังอยู่ในกระบวนการของพรรคก้าวไกล เราก็รับไม่ได้ สิ่งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจน

ส่วนที่มีการไปเสนอข่าวว่าตนไปติดต่อพรรคการเมืองอื่นในการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น เป็นการใส่ร้าย และเป็นข่าวเท็จทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว 16 สส.ใต้ ไปซบพรรคภูมิใจไทยเพื่อร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยได้ลงในเพจของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการดำเนินการหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ช่วยเอาคนที่เสนอข่าวมาให้ทีว่าใครเป็นคนให้ข่าว ตนก็อยากรู้ ถือเป็นเฟคนิวส์ เป็นข่าวเท็จ ช่วยแก้ข่าวให้ด้วย

“ผมไม่อยากเป็นจำเลยของสมาชิกพรรค ของสังคม สิ่งที่ไม่ได้ทำ อย่าพยายามมายัดเยียด มันไม่ถูกต้อง ขณะนี้พรรคเรากำลังจะเดินไปข้างหน้า จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงปรับปรุงพรรค มันไม่ควรจะมาเล่นเกมใต้ดิน หรืออะไรทั้งหมด” นายเฉลิมชัย ระบุ

ส่วนจะมองว่า เป็นการเล่นงานภายในพรรคหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย ระบุว่า ไม่ทราบ เพราะได้เคยบอกไปแล้วว่าตนจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ดังนั้นเมื่อไม่รับตำแหน่งถือว่าตนไม่ได้มีผลประโยชน์ตรงนี้ ให้ไปถามคนที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ไม่ยอมพ้นจากชาตินี้ ตนไปแล้ว ตนไม่มีแล้ว แต่ถ้าเขามาขอคำปรึกษา ตนพร้อมจะให้คำปรึกษา เพราะชีวิตของตนผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งชีวิต

“คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับไม่ให้ผมเป็นสมาชิก คุณไม่มีสิทธิมาบังคับไม่ให้ผมรักประชาธิปัตย์ แต่ถ้าเขาไม่ปรึกษาผม ผมก็ไปตามทางผม ผมมีธุรกิจ ผมมีพรรคพวก ผมก็ไปทำงานของผม ชัดเจน” นายเฉลิมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่นายเฉลิมชัยพูดว่าไม่ใช่ไม่ชอบพรรคก้าวไกล แต่ไม่ชอบนโยบายแก้มาตรา 112 และถ้าพรรคก้าวไกลลดเพดานแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคก้าวไกล จะร่วมรัฐบาลได้ ใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นแนวคิดที่ตนบอกตั้งแต่ต้น แต่การจะเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร หรือไม่เข้าร่วมกับใคร อยู่ที่ความเชื่อมั่น มีใครยืนยันได้ 100% บ้าง ถ้าเรามีความเชื่อมั่นเราก็ร่วม ไม่มีความเชื่อมั่นก็ไม่จำเป็นต้องร่วมตลอดเวลา เพราะตนพูดอยู่ตลอดพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็โอเค เป็นฝ่ายค้านก็ได้ ไม่เคยบอกเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเป็นรัฐบาลอย่างเดียว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66)

Tags: , , , , , ,