รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ (20 ก.ค.) ว่า ฟิลิปปินส์กำลังเฝ้าติดตามอยู่ทุกวันถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะรุกรานไต้หวัน ตามแผนฉุกเฉินที่ฟิลิปปินส์ได้วางเอาไว้เพื่อรับมือกับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรทางทหารของสหรัฐ
นายกิลเบิร์ต เตโอโดโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “เราต้องประเมินอย่างจริงจังถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะรุกรานไต้หวัน”
นอกจากนี้ นายเตโอโดโรกล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม เรายังคงเดินหน้าวางแผนเพื่อเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน แต่รวมถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดในภูมิภาคด้วย”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในบรรดาพันธมิตรตามสนธิสัญญาของสหรัฐทั้ง 5 ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย ฟิลิปปินส์อยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด โดยมีเกาะทางเหนือสุดอยู่ห่างออกไปเพียง 190 กิโลเมตร (118 ไมล์)
รายงานระบุว่า สำหรับฟิลิปปินส์ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือความปลอดภัยของพลเมืองกว่า 100,000 รายที่อาศัยและทำงานในไต้หวัน
นายเตโอโดโรกล่าวเสริมว่า มาตรการฉุกเฉินที่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กำลังหารือกันคือความร่วมมือจากหลายหน่วยงานและไม่ใช่แค่ความพยายามในการป้องกัน
รายงานระบุว่า ฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรด้านกลาโหมของสหรัฐมานานหลายทศวรรษ แต่การที่ฟิลิปปินส์อนุญาตให้ทหารสหรัฐขยายการเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์ในปีนี้ ได้ทำให้จีนไม่พอใจอย่างมาก โดยจีนเรียกว่าเป็นการกระพือความตึงเครียดในภูมิภาค
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้ให้สิทธิ์สหรัฐในการเข้าถึงฐานทัพเพิ่มอีก 4 แห่งในปีนี้ โดยบางแห่งอยู่ในจังหวัดที่ใกล้กับไต้หวัน ขณะที่ฟิลิปปินส์กล่าวย้ำหลายครั้งว่าไม่ได้เข้าข้างประเทศใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 66)
Tags: ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน